บริษัทผู้ผลิตวัคซีนป้องกัน COVID-19 ระดับชั้นนำของโลกออกมาเปิดเผยล่าสุดว่า กำลังเร่งทำงานเพื่อตรวจสอบและปรับปรุงวัคซีนของพวกเขาให้สามารถรับมือกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่พึ่งถูกค้นพบ
หลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า มีการค้นพบเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ชื่อว่า “โอไมครอน” และถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่น่ากังวล ก็ทำให้ Pfizer และ BioNTech เปิดเผยถึงการเตรียมการรับมือ
ทั้ง 2 บริษัทกล่าวว่าน่าจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากห้องทดลองเกี่ยวกับโอไมครอนหรือ B.1.1.529 ภายใน 2 สัปดาห์เป็นอย่างช้า ก่อนจะสามารถสรุปได้ว่ามันมีความอันตรายเพิ่มขึ้นและจำเป็นจะต้องมีการปรับปรุงวัคซีนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไปทั่วโลกหรือไม่
Pfizer และ BioNTech กล่าวต่อไปว่า พวกเขาสามารถปรับปรุงวัคซีน mRNA ได้ภายในเวลา 6 สัปดาห์ และเริ่มส่งมอบวัคซีนล็อตใหม่ได้ภายใน 100 วัน ในขณะที่ Johnson & Johnson ก็เปิดเผยไว้เมื่อวันศุกร์เช่นกันว่ากำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบโอไมครอน
เช่นเดียวกับ AstraZeneca ที่ได้กล่าวไว้ว่า กำลังทำการประเมินไวรัสกลายพันธุ์ล่าสุด โดยชี้ไปถึงแพลตฟอร์มการพัฒนาวัคซีนร่วมกัน Oxford University ที่สามารถตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
ในขณะที่ Moderna ก็แถลงการณ์ไว้เมื่อวันศุกร์ว่า จากลักษณะของการกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงโอกาสของความเสี่ยงที่สูงขึ้นอย่างชัดเจนในการกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นทั้งจากตามธรรมชาติและจากวัคซีนมีประสิทธิภาพลดลง
โอไมครอนที่ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในแอฟริกาใต้มีการกลายพันธุ์ประมาณ 50 ตำแหน่ง โดยไม่ต่ำกว่า 30 ตำแหน่งจากจำนวนเหล่านั้นเกิดขึ้นที่บริเวณหนามโปรตีน ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้เชื้อไวรัสผสานเข้ากับเซลล์ในร่างกายของมนุษย์
เนื่องจากการแพร่ระบาดของมันยังอยู่ในระยะเริ่มต้นจึงยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดถึงความรุนแรงของการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ที่เคยได้รับวัคซีนป้องกัน COVID-19 ไปก่อนหน้านี้แล้ว
หลังการประกาศของ WHO เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายประเทศในเอเชียและยุโรปต่างระงับเที่ยวบินจากแอฟริกาใต้ โดย UK ยังตัดสินใจแบนเที่ยวบินจาก 6 ประเทศที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง และ EU ก็ประกาศให้ทั้ง 27 ประเทศระงับการเดินทางที่มาจากแอฟริกาใต้
แม้ดร. แอนโทนี ฟาวซี หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของทำเนียบขาวจะเผยถึงความร่วมมือกับแอฟริกาใต้เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนยิ่งขึ้น แต่รัฐบาลสหรัฐฯก็ประกาศในเวลาต่อมาว่า จะระงับการเดินทางเข้ามาของผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองสหรัฐฯจาก 8 ประเทศในแถบแอฟริกาตอนใต้
ประสิทธิภาพของวัคซีน COVID-19 ในการป้องกันการติดเชื้อมีการถดถอยลงตามกาลเวลา แต่ยังคงมีประสิทธิภาพค่อนข้างสูงในการป้องกันอาการป่วยหนักและการเสียชีวิต ซึ่งจากวารสารทางการแพทย์ที่เผยแพร่ภายในเดือนนี้พบว่า
ประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อนับจากเดือนก.พ.จนถึงต.ค.ของวัคซีน Pfizer ลดลงจาก 86% มาเหลือ 43% ในขณะที่ Moderna ลดลงจาก 89% มาอยู่ที่ 58% และ J&J ที่ดิ่งลงจาก 86% จนเหลือแค่ 13%
References :