รู้หรือไม่ – ไต้หวันมีปริมาณการส่งออกไปที่จีนในเดือนก.ย.พุ่งขึ้นถึง 22% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
หลายประเทศในเอเชียกำลังเริ่มมองเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากการกระโดดเกาะหลังจีน ซึ่งกำลังย่างเข้าสู่เฟสใหม่ของการขยายตัวภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี หลังมีการบันทึกเคสผู้ป่วยโรค COVID-19 รายแรกของโลกที่นั่น
ในขณะที่นานาประเทศกำลังเฝ้าจับตามองการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ และยังคงอยู่ระหว่างการขวนขวายหาวิธีหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสระลอกที่สองทั้งในทวีปอเมริกาและยุโรป แต่จีนกลับกำลังเดินหน้าพัฒนาประเทศในหลายภาคส่วนสำคัญอยู่อย่างเงียบ ๆ
หลังการประกาศใช้มาตรการล็อคดาวน์แบบเข้มงวดสุด ๆ ตั้งแต่ช่วงต้นของการระบาด ปัจจุบันจีนเป็นเพียงประเทศเดียวที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ทำนายว่าจะมีอัตราการเติบโตเป็นบวกอยู่ที่ 1.9% ภายในปีนี้
จากข้อมูลอย่างเป็นทางการยังแสดงว่า เศรษฐกิจของจีนเติบโตขึ้นถึง 4.9% ในไตรมาสที่ 3 ของปีเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยมีอัตราการเติบโต 3.2% ในไตรมาสที่ 2 ก่อนหน้าตัวเลขติดลบ 6.8% ในไตรมาสที่ 1 ซึ่งอยู่ระหว่างช่วงพีคของการระบาดและการปิดล็อคดาวน์ทั่วประเทศ
นักวิเคราะห์จากสถาบันการเงิน Westpac ได้กล่าวไว้ว่า ในขณะที่เศรษฐกิจทั่วโลกจะมีอัตราการหดตัวลง 4% ภายในปีนี้ แต่จีนกลับจะมีการเติบโตขึ้นประมาณ 2% โดยที่ปี 2021 ก็คาดว่าทั่วโลกจะเติบโตขึ้นราว 6% โดยที่จีนน่าจะขยับขึ้นไปได้เกือบ 10%
ตัวเลขการนำเข้าของจีนยังทะยานขึ้น 13.2% YoY ในเดือนก.ย. โดยเฉพาะการนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ที่เพิ่มขึ้นถึง 28% และส่งผลดีต่อเนื่องไปถึงไต้หวันและเกาหลีใต้ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่
จากข้อมูลเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาระบุว่า เกาหลีใต้มีอัตราการเติบโตสูงสุดในรอบ 10 ปีภายในช่วงไตรมาสจนถึงเดือนก.ย.ที่ผ่านมา จากการขยายตัวได้ถึง 1.9% หลังผ่านพ้นตัวเลขติดลบ 3.2% ในไตรมาสก่อนหน้านั้น
ผลลัพธ์ดังกล่าวมีที่มาจากยอดการส่งออกที่พุ่งขึ้นอย่างชัดเจนถึง 15.6% ในช่วงไตรมาสที่ 3 และยังกลายเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1986 โดยสามารถพลิกฟื้นสถานการณ์จากที่เคยดิ่งลงไป 16.1% ภายในไตรมาสที่ 2
ในขณะที่การส่งออกของญี่ปุ่นไปยังจีนก็ก้าวกระโดดขึ้นถึง 14% แบบปีต่อปีในเดือนก.ย. และยังเป็นสถิติสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี โดยได้รับแรงผลักดันมาจากอุปสงค์อันมหาศาลของโลหะนอกกลุ่มเหล็ก, อุปกรณ์ในการผลิตชิป และรถยนต์
แม้แต่ไต้หวันที่มีบรรยากาศทางการเมืองคุกรุ่นกับรัฐบาลปักกิ่งอยู่ในขณะนี้ก็ยังพลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย เมื่อพวกเขามียอดสั่งซื้อเพื่อการส่งออกจากจีนที่ขยับขึ้นถึง 9.9%
อย่างไรก็ตามจากรายงานการวิเคราะห์ของบริษัทเหมืองแร่ Rio Tinto ก็ได้กล่าวเตือนไปถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเน้นไปที่ความเป็นไปได้ของการชัตดาวน์เศรษฐกิจเพื่อควบคุมปัญหาเชื้อไวรัสอีกครั้ง
จากรายงานยังชี้ไปถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่แม้จะดูมีความเข้มแข็งขึ้น แต่ก็ยังแสดงให้เห็นถึงอัตราการฟื้นตัวที่ยังคงเชื่องช้าในหลาย ๆ พื้นที่ และการระบาดที่กลับพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งก็ยังถือเป็นภัยคุกคามต่อการฟื้นตัว
นอกจากนี้ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและจีนทั้งในด้านการค้าและภูมิรัฐศาสตร์อื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นภายหลังการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ ก็ยังถือเป็นความเสี่ยงต่อความหวังในการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนของเอเชีย
References :