จีนกับการตื่นตัวในการต่อสู้กับปัญหาความมั่นคงทางอาหาร

จีนกำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในการรักษาเสถียรถาพของราคาธัญพืช และน่าจะมีการออกมาตรการสนับสนุนความผันผวนของราคาในตลาดทั้งในและนอกประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับความมั่นคงทางอาหาร

นอกเหนือจากปัญหาการขาดแคลนผลผลิต ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องและสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่าปกติในทางตอนเหนือของจีนได้ทำให้ราคาของข้าวโพดและข้าวสาลีขยับตัวขึ้นสูง ในขณะที่ราคาของข้าวเจ้ากลับลดลงต่ำกว่าราคาขั้นต่ำของการซื้อขาย

ปัญหาของราคาข้าวเจ้าที่ลดลงมาจากผลผลิตที่ออกมามากเกินไปและปริมาณสต็อกที่ล้นคลัง แม้จะมีการนำข้าวเจ้าและข้าวสาลีไปใช้ในการเลี้ยงสัตว์แทนข้าวโพดตั้งแต่ปีก่อน แต่มันก็ไม่ใช่หนทางแก้ปัญหาความมั่นคงทางอาหารในระยะยาว

จากรายงานของ Economic Daily สื่อที่เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลปักกิ่งเปิดเผยว่า มีความจำเป็นสำหรับการใช้นโยบายสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เช่นการเพิ่มรางวัลให้กับท้องถิ่นที่มีผลผลิตสูงและการให้เงินสนับสนุนด้านเกษตรกรรม

จีนยังควรมีความตื่นตัวต่อราคาธัญพืชที่สูงขึ้นทั่วโลก และกระจายแหล่งของการนำเข้าเพื่อรองรับปัญหาการติดชัดของระบบซัพพลายเชนด้านอาหาร ในขณะที่การลดความสูญเสียจากภัยธรรมชาติยังจะช่วยกระตุ้นผลผลิตที่จะถูกเก็บเกี่ยวในช่วงหน้าร้อน

รัฐบาลปักกิ่งมีการกล่าวย้ำถึงเรื่องความมั่นคงทางอาหารมาตลอดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากราคาของธัญพืชที่สูงขึ้นมีความเกี่ยวโยงกับผลลัพธ์ที่ลดลงของบางประเทศผู้ส่งออก

นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัย Trivium China ได้ให้ความเห็นว่า นอกเหนือจากความกังวลเกี่ยวกับราคาข้าวโพดและข้าวสาลี ราคาของเนื้อหมูและพืชผักต่าง ๆ ก็ยังเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกับปัญหาจากต้นทุนของพลังงานและวัตถุดิบอุตสาหกรรมที่มีมาอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งจากมุมมองในด้านการเงิน ความกังวลที่เพิ่มขึ้นทั้งจากอัตราเงินเฟ้อและจากประเด็นทางการเมือง ได้ส่งผลให้ประชาชนทั่วไปที่ต้องการแค่จะมีสิ่งของจำเป็นไว้ในครอบครอง ต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดันของสภาพเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น

จากเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้เผยข้อมูลของราคาอาหารทั่วโลกที่สร้างสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2011 โดยราคาอาหารในเดือนต.คขยับขึ้น 3% จากเดือนก.ย. และยังเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

จีนเป็นประเทศที่พึ่งพาการนำเข้าข้าวโพด, ฝ้าย, ถั่วเหลือง และน้ำตาลจากต่างประเทศ โดยมีสถิติการนำเข้าข้าวโพดสูงถึง 11.3 ล้านตันในปี 2020 ในขณะที่การนำเข้าถั่วเหลืองยังสูงขึ้น 13.3% ในแบบปีต่อปีจนมาอยู่ที่ 100.3 ล้านตัน

ในรายงานของ Economic Daily กล่าวว่า รัฐบาลท้องถิ่นควรจะสร้างเสถียรภาพให้กับพื้นที่เพาะปลูกสำหรับข้าวสาลี และรัฐบาลก็ควรจะคอยสอดส่องการขยับตัวของราคาถั่วเหลือง ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรกรรมที่จีนนำเข้ามามากที่สุด

นอกจากนี้รัฐบาลยังต้องหาแนวทางรับมือเกี่ยวกับปริมาณการจัดหาสินค้าเกษตรกรรม ซึ่งบ่อยครั้งจะได้รับอิทธิพลมาจากประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับสหรัฐฯ, แคนาดา และออสเตรเลีย

References :

https://finance.yahoo.com/news/china-urged-vigilant-rising-grain-093000789.html