ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา การรุกรานยูเครนของรัสเซียได้เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จีนจะใช้กำลังทหารของตนในการเข้าโจมตีไต้หวัน และจุดชนวนสิ่งที่นักวิเคราะห์บางคนกล่าวถึงว่า เป็นการอพยพของนักลงทุนต่างชาติอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ในช่วงสามสัปดาห์หลังการบุกรุก นักลงทุนต่างชาติได้เทขายหุ้นมูลค่าประมาณ $4.8 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน ($16.9 พันล้าน) ตามการเปิดเผยของ Mega International Investment Services ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนที่อยู่ในกรุงไทเป
กระแสเงินทุนไหลออกนั้นสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งนักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs คาดการณ์ว่า มีเงินทุนไหลออกจากไต้หวันคิดเป็นจำนวน $15.6 พันล้านในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยทะยานขึ้นจากปีที่แล้วที่ $15.3 พันล้าน
ไต้หวันได้รับความนิยมในฐานะจุดหมายปลายทางของการลงทุนจากต่างประเทศภายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยนักกลยุทธ์ส่วนใหญ่มักจัดรวมพวกเขาไว้เข้ากับอินเดีย, จีน และเกาหลีใต้ในฐานะกลุ่มเศรษฐกิจที่เรียกว่า “TICKS”
อย่างไรก็ตามนักลงทุนในไต้หวันกลับไม่ได้สูญเสียความมั่นใจในเรื่องนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหลายคนเชื่อว่าสถานการณ์เมื่อเทียบกับยูเครนนั้นไม่เหมือนกัน และเนื่องจากฉันทามติที่สหรัฐฯยืนยันจะเข้ามาช่วยปกป้องเกาะแห่งนี้ในกรณีที่เกิดการโจมตีขั้นรุนแรง
ไต้หวันยังเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในฐานะมหาอำนาจของการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งมีความสำคัญต่อทุกสิ่งอย่างตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงสมาร์ทโฟน เกาะที่มีประชากร 24 ล้านคนแห่งนี้เป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของผลผลิตทั่วโลก
หนึ่งในบริษัทที่โดดเด่นที่สุดของไต้หวันคือ TSMC ที่เป็นผู้นำในตลาดโลก โดยเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ให้กับกิจการอย่าง Apple และ Qualcomm ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ต่างกล่าวว่าผู้ผลิตชิปรายนี้มักถูกมองว่าเป็นแกนนำของตลาดหุ้นไต้หวัน
แต่ในความเป็นจริงแล้วหากเกิดอะไรขึ้นกับไต้หวัน เศรษฐกิจโลกจะมีความเสี่ยงมากกว่าแค่เรื่องของชิป เพราะเกาะแห่งนี้ยังเป็นผู้ผลิตจักรยานและชุดกีฬาระดับไฮเอนด์ที่สำคัญ รวมถึงโรงงานสำหรับแบรนด์ระดับโลกหลายเจ้า
ถึงกระนั้นค่าเงินของไต้หวันก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน ซึ่งทางนักวิเคราะห์หลายคนมองว่าความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ของไต้หวันก็เป็นตัวขับเคลื่อนที่ใหญ่สุดของการไหลออกในสินทรัพย์ของพอร์ตการลงทุน
พวกเขากล่าวว่าค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันเริ่มอ่อนค่าลงหลังจากช่วงเวลาอันเจิดจรัสในปีที่แล้ว และหลังจากได้รับผลกระทบของการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการรุกรานของรัสเซีย แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญอีกหลายคนที่เชื่อว่าไต้หวันยังมีความปลอดภัยในเวลานี้
นักวิเคราะห์จาก Eurasia Group ให้ความเห็นว่า วิกฤตในยูเครนไม่ได้เพิ่มโอกาสในอนาคตอันใกล้ที่จีนจะรุกรานไต้หวัน เช่นเดียวกับรัฐบาลของทั้ง 2 ฝ่ายที่ออกมาลดกระแสของเรื่องนี้โดยกล่าวว่า ไม่มีการเตรียมการใด ๆ สำหรับทางฝั่งจีนและการตื่นตะหนกในไต้หวัน
อย่างไรก็ตาม โจเซฟ หวู่ รมว.ต่างประเทศของไต้หวันก็ได้กล่าวไว้ในเดือนนี้ว่า รัฐบาลไทเปกำลังจับตามองด้วยความระมัดระวังว่าจีนอาจจะทำอะไรกับไต้หวัน นอกจากนี้พวกเขายังได้กระตุ้นให้มีการฝึกซ้อมรบเพิ่มเติมในบางส่วนด้วย
References :
