เศรษฐกิจของไทยกลับมามีการเติบโตขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมาด้วยอัตราการขยายตัวที่เร็วกว่าที่คาดไว้ แต่ก็ยังเป็นหนึ่งในอัตราที่ช้าสุดภายในภูมิภาคอาเซียน พร้อมแนวโน้มการฟื้นตัวในระดับปานกลางสำหรับปีนี้
รัฐบาลไทยยังรักษามุมมองอัตราการเติบโตของ GDP เอาไว้ที่ 3.5%-4.5% โดยมองถึงผลกระทบจากโอไมครอนที่มีจำกัด, ปริมาณความต้องการในประเทศที่เข้มแข็งขึ้น, ปริมาณนักท่องเที่ยว, การสนับสนุนจากภาคการส่งออก และการลงทุนของภาครัฐ
ไทยในฐานะประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกมีอัตราการขยายตัวหลังตัดปัจจัยฤดูกาลที่ 1.8% ในช่วง 3 เดือนหลังสุดของปี 2021 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านั้น
จากข้อมูลดังกล่าวที่เปิดเผยโดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในวันนี้ ถือเป็นผลลัพธ์ที่ล้ำหน้าคำทำนาย 1.4% ของผลสำรวจจาก Reuters หลังจากเศรษฐกิจไทยมีการหดตัวลง 0.9% ในช่วงไตรมาสที่ 3
สศช.คาดหมายจำนวนนักท่องเที่ยวที่ 5.5 ล้านคนในปี 2022 โดยปรับสูงขึ้นจากตัวเลข 5 ล้านคนในเดือนพ.ย. หลังรัฐบาลกลับมาใช้แนวทางยกเว้นการกักตัวสำหรับนักเดินทางจากต่างแดน เพื่อหวังฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวที่คิดเป็นสัดส่วน 12% จากตัวเลข GDP ของไทย
อย่างไรก็ตามมันยังเป็นปริมาณที่ห่างไกลจากยอดนักท่องเที่ยวจากต่างชาติถึง 40 ล้านคนในปี 2019 ซึ่งทางนักวิเคราะห์จาก Capital Economics คาดหมายการฟื้นตัวของไทยว่ายังมีแนวโน้มอยู่ในระดับที่อ่อนแอภายในปีนี้
หากนับจากเมื่อ 1 ปีก่อน การเติบโตของ GDP ระหว่างเดือนต.ค.-ธ.ค.มีผลลัพธ์สูงกว่าที่คาดหมายเอาไว้ 0.7% และเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับผลลัพธ์ของการหดตัวที่ผ่านการแก้ไขเป็น 0.2% จากเมื่อ 3 เดือนก่อนหน้านั้น
อย่างไรก็ตามสำหรับภาพรวมภายในปี 2021 การเติบโตของตัวเลข GDP ของไทยที่ระดับ 1.6% ก็ยังเป็นหนึ่งในอัตราการขยายตัวที่ต่ำสุดของอาเซียน หลังการหดตัวที่อัตราหลังการแก้ไข 6.2% ภายในปี 2020
การเติบโตของไทยในช่วงไตรมาสที่ 4 ยังได้รับการสนับสนุนจากภาคการส่งออกที่เข้มแข็ง และการฟื้นตัวของกิจกรรมภายในประเทศหลังการผ่อนผันมาตรการควบคุม COVID-19 และการเปิดพรมแดนเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศอีกครั้ง
แม้เศรษฐกิจของไทยมีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้ด้วยดีระหว่างช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ แต่ก็อาจมีแรงกดดันบางส่วนจากปัญหาอัตราเงินเฟ้อ ตามการเปิดเผยของ ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการของสศช.
ดนุชา ได้กล่าวไว้ว่า แรงผลักดันหลักสำหรับการเติบโตในปีนี้จะมาจากการส่งออกและการเบิกจ่ายงบการเงิน โดยมีการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศที่จะเป็นตัวสนับสนุน ในขณะที่สศช.คาดหมายการเติบโตของการส่งออกในปีนี้ที่ 4.9%
ที่ผ่านมารัฐบาลไทยได้นำเสนอมาตรการเยียวยามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ ในขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ระดับสถิติต่ำสุด 0.50% มาตั้งแต่เดือนพ.ค. 2020
References :
