วิกฤตของระบบซัพพลายเชนทั่วโลกที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทะยานขึ้นเกินความคาดหมายของธนาคารกลาง และการเป็นอุปสรรคที่ชะลอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก อาจกำลังเริ่มส่งสัญญาณให้เห็นถึงการลดระดับลงอย่างต่อเนื่องไปจนถึงช่วงสิ้นปีนี้
แต่ช่องทางการค้าต่าง ๆ อาจยังคงติดขัดต่อไปจนถึงปีหน้า ก่อนที่อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจะเริ่มมองเห็นธุรกิจของตนเองอยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้น แม้จากการคาดคะเนว่าการระบาดครั้งใหม่จะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นมาอีก
ฟิลิป เลน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปรียบเทียบการล่มสลายดังกล่าวกับผลพวงจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปริมาณความต้องการดีดตัวสูงขึ้นและบรรดากิจการต้องรีบปลับเปลี่ยนจากการผลิตสินค้าทางการทหารไปเป็นทางพลเรือน
ส่วนเศรษฐกิจที่เน้นการส่งออกอย่างเยอรมนีพบว่า การฟื้นตัวได้รับผลกระทบจากปัญหาคอขวดของอุปทานในโรงงาน ในขณะที่การพุ่งขึ้นของค่าขนส่งประกอบกับราคาเชื้อเพลิงที่ดีดตัวขึ้นก็เป็นแรงผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯทะยานขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ทศวรรษ
จนถึงขณะนี้จากความอันตรายของ COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่ลดน้อยลง ได้ทำให้รัฐบาลหลายแห่งทยอยผ่อนผันมาตรการควบคุม และมีสัญญาณเบื้องต้นของปัญหาในระบบซัพพลายเชนที่เริ่มจะคลี่คลายลงไป
จากผลสำรวจของสถาบัน Institute of Supply Management เมื่อสัปดาห์ก่อนเปิดเผยถึงแนวโน้มที่ดีขึ้นในตลาดแรงงานสหรัฐฯและการส่งมอบของเหล่าซัพพลายเออร์ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา รวมถึงฟีดแบ็คที่เป็นบวกจากผจก.ฝ่ายจัดซื้อในยุโรป
ในขณะที่มันดูเหมือนจะช่วยเพิ่มความหวังให้กับธนาคารกลางถึงการลดลงของแรงกดดันจากเงินเฟ้ออย่างเป็นรูปธรรมตลอดไปจนถึงช่วงปลายปีนี้ แต่พวกเขาก็ตะหนักอยู่ว่ายังคงมีสัญญาณที่ผสมผสานกันไปจากสภาพเศรษฐกิจจริง
หัวหน้าฝ่ายขนส่งของบริษัท Maersk ได้กล่าวไว้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า มีการประเมินถึงผู้คนที่น่าจะกลับไปทำงานที่ท่าเรือเพิ่มขึ้น รวมถึงการฟื้นคืนชีพของสายการผลิตเรือสินค้าใหม่ และกลุ่มผู้บริโภคที่เริ่มหันกลับมายังส่วนของการบริการมากขึ้น
อย่างไรก็ตามทางออกต่าง ๆ ยังคงขึ้นอยู่กับการไม่มีเหตุฉับพลันและรุนแรงใด ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับระบบซัพพลายเชนอีก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วยังมีความเปราะบางปรากฎให้เห็นอยู่ในอุตสาหกรรมหลายแห่ง
เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา Toyota, General Motors, Ford และ Stellantis ที่เป็นบริษัทแม่ของ Chrysler ออกมากล่าวว่า ยังมีปัญหาเกิดขึ้นกับโรงงานในแถบอเมริกาเหนือ เนื่องจากการขาดแคลนชิ้นส่วนประกอบและเหตุการณ์ประท้วงของคนขับรถบรรทุกในแคนาดา
ในขณะที่ญี่ปุ่น, เยอรมนี และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ก็ได้เผยความกังวลร่วมกันถึงปัญหาคอขวด ในกรณีที่นโยบายปลอด COVID-19 ของจีนที่รวมถึงการปิดล้อมเมืองต่าง ๆ ถูกนำมาใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโอไมครอนในท้องถิ่นอย่างเต็มที่
แต่สำหรับในส่วนของผู้บริโภค อาจต้องใช้เวลาอีกซักระยะกว่าที่จะเห็นการคลายแรงกดดันของระบบซัพพลายเชนอย่างเป็นรูปธรรม และพวกเขายังไม่ควรคาดหวังถึงราคาหรือความพร้อมของสินค้าและบริการต่าง ๆ ว่าจะกลับคืนสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดในเร็ว ๆ นี้
References :