รู้หรือไม่ – โจ ไบเดน เคยดำรงตำแหน่งรองปธน.สหรัฐฯอยู่นาน 8 ปีภายใต้ยุคการบริหารของปธน. บารัค โอบาม่า
ว่าที่ปธน. โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯประกาศชัดเจนว่า มันเป็นเวลาที่จะต้องรักษาการแบ่งแยกที่ฝังรากลึกอยู่ในอเมริกา หลังได้รับการชี้ขาดในเบื้องต้นถึงการคว้าชัยชนะการเลือกตั้งปีนี้ ในขณะที่ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ยังปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้
ชัยชนะของ ไบเดน ในรัฐเพนซิลเวเนียทำให้เขาได้รับเสียงโหวตจากคณะผู้เลือกตั้งเกิน 270 เสียงสำหรับการครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งตามมาด้วยการเฉลิมฉลองโดยกลุ่มผู้สนับสนุนของเขาตามท้องถนนทั่วประเทศ
ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตให้คำมั่นว่า เขาจะรวมประเทศกลับมาเป็นหนึ่งเดียว พร้อมกับมุ่งหน้าหาหนทางต่อสู้กับภาวะวิกฤตของโรคระบาด, ฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจ, รับรองระบบสุขภาพสำหรับชาวอเมริกัน และกำจัดปัญหาการเหยียดผิว
โดยไม่ได้พาดพิงไปถึงคู่แข่งจากพรรครีพับลิกันโดยตรง ไบเดน เลือกที่จะกล่าวถึงชาวอเมริกันกว่า 70 ล้านคนที่ลงคะแนนเสียงให้ ทรัมป์ ซึ่งรวมถึงกลุ่มคนที่ออกเดินไปตามท้องถนนเมื่อวันเสาร์เพื่อประท้วงผลการเลือกตั้งไว้ว่า
“สำหรับทุกคนที่โหวตให้กับปธน. ทรัมป์ ผมเข้าใจถึงความรู้สึกผิดหวังในค่ำคืนนี้ ตัวผมเองก็เคยผ่านความพ่ายแพ้มาก่อน แต่ในเวลานี้เราควรจะให้โอกาสซึ่งก่อนและกัน มันเป็นเวลาที่จะหยุดใช้ถ้อยคำที่รุนแรง ลดความร้อนแรงลง หันหน้ามามองและรับฟังซึ่งกันและกัน”
นอกเหนือจากการกล่าวย้ำว่า “นี่เป็นเวลาที่จะเยียวยาอเมริกา” ไบเดน ยังกล่าวขอบคุณไปถึงกลุ่มผู้สนับสนุนที่เป็นชาวผิวดำ โดยเปิดเผยว่าแม้ในช่วงเวลาที่ตกต่ำสุดระหว่างการหาเสียงของเขา ก็ยังมีชุมชนชาวผิวดำที่คอยยืนอยู่เคียงข้างเขา
ระหว่างเวทีปราศรัยของการประกาศชัยชนะครั้งแรก ไบเดน ยังได้กล่าวแนะนำ กมลา แฮร์ริส คู่หูของเขาว่า กำลังจะได้เป็นหญิงผิวดำที่ยังมีเชื้อสายเอเชียคนแรกที่ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งรองปธน.ของสหรัฐฯ
ในขณะเดียวกันยังมีเสียงแสดงความยินดีจากผู้นำประเทศต่าง ๆ ที่หลั่งไหลเข้ามา ทั้งนายกฯ บอริส จอห์นสัน แห่ง UK, ปธน. จัสติน ทรูโด แห่งแคนาดา และนายกฯ อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนีที่บ่งบอกถึงช่วงเวลานับถอยหลังสำหรับ ทรัมป์
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการออกรอบวงสวิงในขณะที่สถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศกำลังนำเสนอการกล่าวคำปราศรัยฉลองชัยโดยคู่แข่งของเขา ทรัมป์ ก็ได้กล่าวโจมตี ไบเดน ว่ารีบร้อนแสดงตัวเป็นผู้ชนะเร็วเกินไป พร้อมกับย้ำว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ยังไม่จบลงในเร็ววันนี้
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ ได้ยื่นฟ้องเพื่อคัดค้านผลการโหวต แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายเลือกตั้งในแต่ละรัฐทั่วประเทศก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่มีหลักฐานใดที่ยืนยันว่ามีการทุจริต และทางผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหลายคนก็มองว่าความพยายามของ ทรัมป์ น่าจะสูญเปล่า
เช่นเดียวกับกลุ่มผู้สนับสนุน ทรัมป์ ที่มีการวมตัวประท้วงกันอยู่รอบเขตอาคารส่วนกลางในเมืองหลวงของรัฐมิชิแกน, เพนซิลเวเนีย และแอริโซนา แต่ก็ไม่มีสัญญาณของความรุนแรงแต่อย่างใด ก่อนจะค่อย ๆ สลายตัวไปหลังการรายงานผลชัยชนะของ ไบเดน เริ่มแพร่หลายออกไป
เมื่อ ไบเดน กล่าวเข้าสู่ทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค. เขาจะกลายเป็นปธน.สหรัฐฯที่มีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ จากการขึ้นครองตำแหน่งด้วยวัย 78 ปี พร้อมกับภารกิจอันหนักอึ้งที่รอคอยอยู่ในเบื้องหน้า
สหรัฐฯยังอยู่ระหว่างภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในทางเทคนิคพร้อมกับความหวังที่ยังเลือนรางในตลาดแรงงานจากจำนวนผู้ตกงานที่มีอยู่นับล้าน โดยเฉพาะในภาคส่วนของการบริการทั้งในสายการต้อนรับและธุรกิจบันเทิง
References :