ในการเทรดฟอเรกซ์เพื่อเก็งกำไรในตลาดนั้น แน่นอนว่าเราจะต้องรู้จักอินดิเคเตอร์ต่างๆเสียก่อน เราจะต้องเข้าใจข้อดีข้อเสียของอินดิเคเตอร์แต่ละแบบ แม้ว่าวันนี้เราจะสามารถเลือกได้ว่าจะใช้อินดิเคเตอร์ตัวไหนมาช่วยในการเก็งกำไรจากตลาดฟอเรกซ์ แต่เราจะต้องเลือกใช้ให้ถูกกับสถานการณ์นั้นด้วย ไม่ใช่ว่าสถานการณ์เดียวจะสามารถใช้ได้กับอินดิเคเตอร์ทุกตัว
เพราะอินดิเคเตอร์แต่ละตัวมีการออกแบบมาให้มีการนับมาปรับใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่อินดิเคเตอร์แต่ละตัวจะมีประโยชน์แตกต่างกันออกไป ถ้าเราอยากจะประสบความสำเร็จในการเก็งกำไรจากตลาดค่าเงินนั้น เราจึงจะต้องเรียนรู้ว่าจะใช้อินดิเคเตอร์ตัวใดเข้ามาช่วยในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน เพื่อช่วยให้เราทำกำไรได้มากที่สุดและสามารถบริหารพอร์ตในการเทรดของเราให้อยู่รอดปลอดภัย มีความมั่นคงจริงๆ
อินดิเคเตอร์ประเภทแรกที่ทุกคนรู้จักและสามารถสร้างผลกำไรได้สูงก็คือ MA หรือ Moving Average นั่นเอง เป็นการหาค่าเฉลี่ยจากหลายๆวันหรือหลายๆชั่วโมง อาทิเช่นเส้น MA10 เป็นการหาค่าเฉลี่ยของราคาในระยะเวลา 10 วันหรือ 10 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับไทม์เฟรมที่เราเลือกใช้ หากเป็นไทม์เฟรม Day ก็หมายถึงค่าเฉลี่ยในระยะเวลา 10 วัน การเทรดด้วยเส้น MA นั้น เราจะเปิดออร์เดอร์เทรดก็ต่อเมื่อราคาวิ่งมาชนเส้น หากราคาอยู่ใต้เส้นแสดงว่าเป็นเทรนด์ขาลง แต่หากราคาสูงกว่าเส้นแสดงว่าเป็นเทรนด์ขาขึ้น หากเป็นเทรนด์ขาลง แล้วราคาวิ่งขึ้นมาชนเส้น แสดงว่าเส้น MA ณ เวลานั้นทำหน้าที่เป็นแนวต้าน ให้เราทำการเปิดออร์เดอร์ขายได้เลย แต่หากราคาอยู่สูงกว่าเส้น แล้วราคาหล่นลงมาโดนเส้น เส้น MA ในขณะนั้นจะทำหน้าที่เป็นแนวรับ
เป็นขาขึ้นหรือขาลงชัดเจนเท่านั้น เพราะอินดิเคเตอร์ตัวนี้ใช้ได้ก็ต่อเมื่อตลาดในตอนนั้นเป็นเทรนด์เท่านั้น หลายๆคนก็ยังมีเคล็ดลับเพิ่มเติมในการใช้อินดิเคเตอร์ตัวนี้ โดยมีการทำ MA ขึ้นมาสองเส้น ได้แก่ MA50 และ MA100 หรือจะทำ MA ค่าน้อยกว่ากับ MA ค่ามากกว่ามาคู่กันก็ได้ ซึ่งหากราคาร่วงต่ำกว่า MA50 และ MA50 อยู่ใต้ MA100 แสดงว่าเป็นการแสดงถึงราคาที่พร้อมลงต่ออย่างชัดเจน ตรงข้ามกันหาก MA50 อยู่สูงกว่า MA100 และราคาก็อยู่สูงกว่า MA50 นั่นหมายความว่าเป็นการแสดงออกถึงขาขึ้นชัดเจนเช่นกัน ช่วยให้เราสามารถที่จะหาจังหวะในการซื้อขายได้ง่ายยิ่งขึ้น
โดยอินดิเคเตอร์อีกตัวที่เราสามารถใช้ในการเก็งกำไรขณะที่ตลาดยังเป็นเทรนด์อย่างชัดเจนได้ก็คือ RSI ซึ่งหาก RSI มีค่ามากกว่า 70 แสดงว่าเป็นจุดที่มีการซื้อมากเกินไป เราจะต้องหาจังหวะขาย แต่หากค่า RSI ต่ำกว่า 30 แสดงว่าเป็นจุดที่มีการขายมากเกินไปแล้ว เราจะต้องหาจังหวะซื้อ ซึ่ง RSI เป็นเครื่องมืออีกตัวที่ได้รับความนิยมและใช้งานง่ายดายมากๆ สามารถทำให้เราทำเงินจากตลาดฟอเรกซ์ได้อย่างมากมายโดยไม่ต้องศึกษามากมายเช่นกัน เพราะมีตัวเลขบอกชัดเจน แต่เช่นเดียวกับการใช้งาน MV นั่นก็คือเราจะต้องหาจังหวะเข้าซื้อขายในช่วงที่เป็นเทรนด์ชัดเจนและซื้อตามเทรนด์เช่นกัน เราจึงจะะสามารถซื้อขายได้อย่างปลอดภัย
หากท่านใดที่ไม่ถนัดที่จะใช้เครื่องมือซื้อขายที่เน้นซื้อขายตามเทรนด์ วันนี้เรายังมีเครื่องมือที่สามารถซื้อขายในตลาด Sideway หรือการซื้อขายในกรอบแคบๆมาฝากท่านเช่นกัน ซึ่งเป็นจังหวะที่ยังไม่มีข่าวออก กราฟยังไม่เลือกทางสำหรับวิ่งอย่างชัดเจน ในระหว่างนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะทำกำไรจากเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ตลาด Sideway ได้ โดยเครื่องมือที่ใช้ในการทำเงินจากตลาดนี้ก็คือ CCI, ADX, BB และอื่นๆ
โดยเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้เราหาจังหวะในการเข้าซื้อที่เหมาะสม ส่วนใหญ่หากเราใช้วิธีการวิเคราะห์เทรนด์ไลน์และแนวรับแนวต้านควบคู่ไปด้วย เรามักจะได้ราคาที่เป็นจุดกลับตัวจริงๆ ดังนั้นให้วาดเทรนด์ไลน์เอาไว้เลย เมื่อราคาขึ้นมาชนเทรนด์ไลน์ เราก็เปิดคำสั่งขาย เมื่อราคาตกลงมาที่เทรนด์ไลน์อีก เราก็เปิดคำสั่งซื้อ ซึ่งเรามักจะได้ราคาที่เป็นจุดกลับตัวจริงๆได้ไม่ยาก
แม้ว่าการเทรดในตลาด Sideway นั้น สามารถใช้อินดิเคเตอร์ควบคู่กับเทรนด์ไลน์เพื่อหาแนวรับแนวต้านได้ไม่ยากและได้ราคาที่เป็นจุดกลับตัวจริงๆ แต่อย่าลืมว่าเราจะต้องระวังข่าวเป็นระยะด้วย แม้จะเป็นการเทรดในช่วงกรอบแคบๆที่ราคายังไม่เลือกทาง แต่เมื่อไหร่ที่มีข่าวใหญ่ประกาศออกมา แน่นอนว่าตลาดจะเริ่มเลือกทางทันทีว่าจะขึ้นหรือลง ดังนั้นก่อนที่ข่าวจะออกมาเพียงไม่นาน เราควรออกจากตลาดก่อน นโบรกเกอร์ที่ดีที่พร้อมให้เราใช้เทคนิคในการทำกำไรหลากหลายวิธี เราสามารถนำวิธีการต่างๆมาช่วยในการเก็งกำไรได้อย่างมากมายเลยทีเดียว
