ทิศทางราคาของ Bitcoin อาจถูกทดสอบในสัปดาห์นี้ จากที่นักลงทุนกำลังเฝ้าติตตามสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ไปพร้อม ๆ กับความเป็นไปได้ของการขยับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.50% ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในเดือนมี.ค.นี้
คริปโทเคอร์เรนซีที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงที่สุดได้รับการกล่าวถึงมายาวนานจากนักลงทุนอิสระและกลุ่มผู้ที่ฝักใฝ่ถึงบทบาทการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งจะมีส่วนช่วยรองรับความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่าง ๆ สำหรับพอร์ตการลงทุน
แต่ภายในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา BTC กลับมามีสถานะใกล้เคียงกับหุ้นโดยเฉพาะกับกลุ่มหุ้นเติบโต ในขณะที่มันยังกำลังฟื้นตัวจากการดิ่งลงในช่วงก่อนหน้านี้ เมื่อการขยับอัตราดอกเบี้ยขึ้นจะส่งผลให้นักลงทุนปลีกตัวออกจากหุ้นเทคโนโลยีและสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงอื่น ๆ
นักวิเคราะห์จากตลาดซื้อขายคริปโต Bitbank กล่าวว่า จากในอดีต BTC ที่ถูกขนานนามว่าสกุลเงินไร้สัญชาติมักจะทำผลงานได้ดีระหว่างที่มีความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ดังนั้นผู้คนจึงอาจคาดหวังถึงความต้องการที่สูงขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
อย่างไรก็ตามจากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในภาพรวมทำให้ BTC มีความอ่อนไหวต่อความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดังนั้นนักลงทุน BTC จึงอาจจะยังรู้สึกไม่มั่นใจจนกว่าสถานการณ์ตรงบริเวณชายแดนระหว่างรัสเซียและยูเครนจะคลี่คลายลงไป
ราคาของ BTC ในปัจจุบันอยู่ที่ระดับลดลงประมาณ 10% ในแบบปีต่อปีและต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาราว 38% และด้วยสภาพแวดล้อมของการขยับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในปัจจุบัน ที่จะส่งผลต่อการหยุดนิ่งของหุ้นเทคโนโลยีและหุ้นเติบโตไปชั่วขณะ
ก็จะมีความหมายเท่ากับหากตลาดคริปโตในเวลานี้ได้ย่างเข้าสู่ภาวะ Crypto Winter หรือภาวะฤดูหนาวของคริปโต ซึ่งหมายถึงการเข้าสู่ช่วงขาลง ก็อาจจะทำให้แนวโน้มของตลาดตกอยู่ในสภาวะนี้ต่อไปอีกนานหลายเดือน
ผู้ก่อตั้งบริษัทวิเคราะห์ Fairlead Strategies ให้ความเห็นว่า แนวต้านตรงบริเวณ $46,730 น่าจะยังคงอยู่ต่อไปในสัปดาห์นี้ ส่วนแนวรับก็จะอยู่ตรงบริเวณ $37,360 แต่เขาก็เชื่อว่า BTC ไม่ได้กำลังเคลื่อนตัวเพื่อทดสอบแนวสำคัญต่าง ๆ ในระยะสั้น
ในขณะที่นักลงทุนคริปโตผู้มีประสบการณ์อาจจะคุ้นชินกับช่วงขาลงดังกล่าว แต่ BTC ก็ผ่านช่วงภาวะฤดูหนาวมาเพียงครั้งเดียวก่อนหน้าปี 2018 ที่ราคาดิ่งลงประมาณ 80% จากจุดสูงสุดเวลานั้น โดยที่ตลาดมีการวิวัฒนาการขึ้นอย่างเห็นได้ชัดนับแต่นั้นมา
ช่วงแนวโน้มขาลงเป็นเวลาที่อุตสาหกรรมได้ทำการชะล้าง รวมถึงการก่อร่างโครงสร้างพื้นฐานและแอปพลิเคชั่นที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการหลั่งไหลของผู้ที่จะเข้ามาในช่วงตลาดขาขึ้นครั้งถัดไป
ทั้งระบบ DeFi, NFT และเมตาเวิร์ส ล้วนเป็นสิ่งน่าสนใจในภาคส่วนใหม่ของคริปโทเคอร์เรนซีที่อาจก้าวล้ำหน้า BTC ไปอีก ตามความเห็นของหัวหน้าฝ่ายการเงินของ Prime Trust ที่กล่าวว่า เรากำลังเริ่มต้นแค่ในระดับผิวเผินของโลกบล็อกเชนที่กำลังจะเดินหน้าต่อไป
ด้วยวงจรของ Bitcoin ที่ยาวขึ้นและผลตอบแทนที่ลดลง สินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ จึงมีบทบาทสำคัญในการนำผู้มีส่วนร่วมหน้าใหม่เข้าสู่ตลาด ในขณะที่ตัว BTC เองก็ยังไม่พบแอปหรือรูปแบบการใช้งานที่เป็นทีเด็ด ซึ่งจะช่วยสร้างคุณสมบัติที่ทำให้ขาดมันไม่ได้ขึ้นมา
References :