รู้หรือไม่ – ปัญหาการขาดแคลนชิปยังส่งผลกระทบต่อ PS5 หลัง Sony ยอมรับว่าอาจผลิตออกมาไม่เพียงต่อความต้องการลูกค้า
ปธน. โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯประกาศไว้เมื่อวานนี้ว่า จะมองหาช่องทางการสนับสนุนงบ $3.7 หมื่นล้านให้กับร่างกฎหมายที่จะช่วยกระตุ้นกำลังการผลิตชิปในสหรัฐฯ จากปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่กำลังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์และการผลิตอื่น ๆ
ไบเดน ยังได้ลงนามในคำสั่งพิเศษที่มีเป้าหมายไปยังปัญหาการขาดแคลนชิป ซึ่งเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างช่วงภาวะวิกฤตของโรคระบาด พร้อมกับการร่วมหารือกับกลุ่มผู้ร่างกฎหมายจากทั้ง 2 พรรคใหญ่เมื่อวานนี้
คำสั่งพิเศษของเขากำหนดระยะเวลา 100 วันในการทบทวนแหล่งซัพพลายเชนสำหรับ 4 ผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ ซึ่งประกอบไปด้วยเซมิคอนดักเตอร์, แบตเตอรี่ความจุสูงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า, แร่ที่มีธาตุโลหะหายาก และสินค้าเภสัชกรรม
ทำเนียบขาวก็ได้กล่าวยืนยันความเคลื่อนไหวของ ไบเดน ว่า เป็นมาตรการที่หวังจะกระตุ้นขีดความสามารถของอุตสาหกรรมผลิตชิป ซึ่งยังรวมอยู่ในร่างกฎหมายความมั่นคงของสหรัฐฯในปีนี้ แต่จะแยกกระบวนการจัดหาเงินทุนออกจากกัน
ทางฝั่งของสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์แห่งสหรัฐฯ (SIA) ก็ออกมากระตุ้นทั้งในส่วนของคณะรัฐบาลและสภาคองเกรสให้เร่งดำเนินการในขั้นตอนจัดหาเงินทุนเพื่อรองรับกฎหมายดังกล่าว
ที่ผ่านมาสหรัฐฯประสบปัญหาเรื่องแหล่งซัพพลายนับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นการระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งทำให้พวกเขาขาดแคลนเครื่องมือที่จำเป็นอย่างหน้ากาก, ถุงมือ และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล จนกลายเป็นปัญญาหนักสำหรับบุคคากรที่ทำงานอยู่ในแนวหน้า
การขาดแคลนชิปถือเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต้องปลดคนงานออกจากไลน์ผลิต โดย Ford ได้กล่าวไว้เมื่อล่าสุดว่า ปัญหาดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตของบริษัทให้ลดลงถึง 20% ในช่วงไตรมาสที่ 1
ส่วนทาง General Motors ก็ได้กล่าวไว้เช่นเดียวกันว่า อาจปรับลดกำลังการผลิตลงภายในโรงงานที่สหรัฐฯ, แคนาดา และเม็กซิโก และยังอาจต้องประเมินแผนการผลิตใหม่ในช่วงกลางเดือนมี.ค.
จากการเคลื่อนไหวของ ไบเดน ก็ทำให้ Ford ออกมากล่าวยกย่องแผนการของคณะรัฐบาล โดยย้ำว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับพนักงาน, ลูกค้า และธุรกิจของบริษัท โดยที่ทุกฝ่ายมีความมุ่งมั่นที่จะยุติปัญหานี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ในขณะที่บริษัทผู้ผลิตชิปสัญชาติอเมริกันครองสัดส่วนยอดขายของผลิตภัณฑ์ทั่วโลกอยู่ราว 47% แต่กลับมีกระบวนการผลิตเกิดขึ้นเพียงแค่ 12% เท่านั้นภายในเขตพื้นที่ของสหรัฐฯ ตามรายงานข้อมูลของ SIA
จึงกลายเป็นแรงกดดันสำหรับ ไบเดน จากกลุ่มผู้ร่างกฎหมายของทางฝ่ายรีพับลิกัน ที่ต้องการให้มีการปกป้องแหล่งซัพพลายเชนสำหรับบริษัทอเมริกันจากจีน โดยการลงทุนให้มีการผลิตชิปที่รองรับเทคโนโลยีใหม่ภายในประเทศเพิ่มขึ้น
ภายใต้คำสั่งล่าสุดของ ไบเดน จะส่งผลให้เกิดการกระจายตัวของแหล่งซัพพลายเชนในประเทศตามแต่ละผลิตภัณฑ์ โดยการพัฒนาแหล่งการผลิตภายในสหรัฐฯและการร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ ทั้งในเอเชียและอเมริกาใต้ในกรณีที่ไม่สามารถผลิตชิ้นส่วนเหล่านั้นได้ภายในประเทศ
References :