การกลับคืนสู่ภาวะปกติของเศรษฐกิจโลกในปี 2022 และการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินให้รัดกุมยิ่งขึ้นของสหรัฐฯ (Fed) กำลังจะส่งผลกระทบในทิศทางขาลงต่อทองคำและโลหะเงิน ตามความเห็นของนักวิเคราะห์จากธนาคาร Natixis
แบร์นาร์ด ดาห์ดาห์ นักวิเคราะห์ตลาดโลหะมีค่าของธนาคารใหญ่จากฝรั่งเศสกล่าวว่า เขาไม่ได้กำลังคาดหวังถึงราคาของทองคำที่จะร่วงหล่นลงอย่างฮวบฮาบ แต่มีการคาดหมายถึงราคาที่จะกลับคืนสู่ระดับก่อนเกิดภาวะวิกฤต COVID-19
นักวิเคราะห์จากธนาคาร Natixis มองไปถึงราคาเฉลี่ยของทองคำที่ระดับ $1,630 ต่อออนซ์ในปีหน้า โดยตัวเลขดังกล่าวยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยของราคาทองคำในช่วง 10 ปีก่อนหน้านี้ แต่เราจะได้เห็นการกลับคืนสู่ภาวะปกติของตลาด
Natixis ไม่ได้มีมุมมองในทิศทางบวกสำหรับเงินเช่นกัน โดย ดาห์ดาห์ กล่าวถึงราคาโลหะเงินว่าน่าจะมีแนวโน้มที่ลดลงตามราคาทองคำ แม้ทั่วโลกกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสีเขียวมากขึ้น โดยมองถึงราคาเฉลี่ยของเงินในปีหน้าที่ $21.10 ต่อออนซ์
เขายังกล่าวถึงนโยบายการเงินที่รัดกุมขึ้นของ Fed ว่าจะยังมีบทบาทสำคัญต่อราคาของทองคำในปี 2022 โดยอธิบายว่าหากเศรษฐกิจโลกกลับคืนสู่ภาวะปกติ การติดขัดของระบบซัพพลายเชนก็น่าจะได้รับการแก้ไขในปีหน้า และทำให้ภัยคุกคามจากอัตราเงินเฟ้อลดลง
ในขณะเดียวกันการเติบโตขึ้นของเศรษฐกิจสหรัฐฯและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ก็จะทำให้ Fed ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในปีหน้า และทำให้คาดหมายได้ถึงอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงว่าจะติดลบน้อยลง โดยน่าจะขยับเข้าใกล้ระดับศูนย์ภายในปี 2022
และนั่นก็จะกลายเป็นสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อราคาทองคำ ด้วยอัตราดอกเบี้ยและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นจะส่งผลต่อต้นทุนค่าเสียโอกาสของการถือครองโลหะมีค่าเพิ่มขึ้น
Natixis ยังคาดการณ์ถึงการปรับอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในช่วงปลายปี 2022 หรือต้นปี 2023 ที่จะแสดงถึงท่าทีสายเหยี่ยวยิ่งกว่าที่เคยคาดการณ์กันไว้ในปัจจุบัน โดยที่ตลาดกำลังมองถึงการปรับอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีหน้าจากการเริ่มต้นในเดือนพ.ค.
ดาห์ดาห์ กล่าวถึงแนวทางการปรับนโยบายการเงินของ Fed ว่าจะขึ้นอยู่กับอัตราการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และหากทั่วโลกสามารถก้าวข้ามผ่านวิกฤตของ COVID-19 ไปได้ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ Fed จะเดินหน้าไปถึงเป้าหมายที่วางไว้
COVID-19 และสายพันธุ์โอไมครอนที่มีอัตราการแพร่กระจายเชื้อสูงยังคงเป็นความเสี่ยงแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่ใหญ่สุดในปี 2022 ซึ่งกำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกในขณะนี้ จนทำให้บางประเทศต้องหันกลับมาใช้มาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด
ดาห์ดาห์ ให้ความเห็นว่า หากโอไมครอนสามารถสร้างปัญหาใหญ่ให้เกิดขึ้นทั่วโลก และทำให้ต้องมีการหันกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นหลัก ก็อาจส่งผลให้ราคาทองคำทะยานกลับขึ้นไปสู่ระดับ $2,000 ได้โดยไม่ยาก
อย่างไรก็ตามประเทศที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจโลกมากที่สุดคือจีน โดยหากมีการล็อกดาวน์ครั้งใหญ่ขึ้นที่จีนก็จะส่งผลต่อการติดขัดของซัพพลายเชนทั่วโลกและอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น แต่หากประเทศอื่นต้องล็อกดาวน์ในขณะที่จีนยังคงเปิดกว้างอยู่ เศรษฐกิจโลกก็จะยังฟื้นตัวต่อไปได้
References :