อัปเดตข่าวประจำวันพุธที่ 26 สิงหาคม 2563
ประเด็นสำคัญที่น่าติดตาม
- ออสเตรเลียเล็งเพิ่มงบด้านการทหารในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจตัวล่าสุด
- โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นเผยยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงทิศทางการเมืองหลังสมัย”อาเบะ”
- จีนประกาศนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯเพิ่มขึ้นในครึ่งหลังของรอบปีบัญชี
USD
- ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ (NHC) ออกมาประกาศเตือนในวันนี้ว่า พายุเฮอริเคนลอรามีกำลังแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้าทิศทางการเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งในแถบชายแดนของรัฐหลุยเซียนาและเท็กซัสในภายหลังของวันนี้
- กระทรวงเกษตรของจีนออกมายืนยันในวันนี้ว่า มีความคาดหมายในการเพิ่มยอดนำเข้าของถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ อย่างคงที่ภายในครึ่งหลังของรอบปีบัญชีปัจจุบัน แม้จะมีเหตุขัดแย้งกับรัฐบาลวอชิงตันอยู่ในระยะหลัง ๆ ก็ตาม
- เอสเธอร์ จอร์จ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สาขาแคนซัสซิตี้ออกมากล่าวเตือนในวันนี้ว่า ความเสี่ยงถึงโอกาสการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยซ้ำซ้อนกำลังเพิ่มขึ้นจากการระบาดซ้ำของโรค COVID-19
- รัฐบาลของฝรั่งเศสจะเปิดเผยแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจในวันที่ 3 ก.ย. โดยมีเป้าหมายในการกระตุ้นกิจกรรมด้านเศรษฐกิจจากภาวะวิกฤตของโรคระบาด ตามคำกล่าวของนายกฯ ฌอง กัสเต็กซ์ แห่งฝรั่งเศสในวันนี้
- โยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นออกมากล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องการเมืองต่อจากสมัยของนายกฯ ชินโซ อาเบะ เพราะเขาจะมีวาระตามตำแหน่งไปจนถึงปีหน้า
- ออสเตรเลียวางแผนเพิ่มงบประมาณด้านกำลังทหารอีก 716.8 ล้านดอลลาร์เพื่อเสริมประสิทธิภาพของกองทัพพร้อมข้อเสนอเพิ่มค่าแรงให้กับผู้ที่พร้อมกลับมารับใช้ชาติ
- ธนาคารกลางของจีน (PBoC) อัดฉีดเงินเป็นจำนวน 2 แสนล้านหยวน (2.9 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าสู่ระบบการเงินผ่านช่องทาง Reverse Repos ระยะเวลา 14 วันเพื่อช่วยรักษาระดับสภาพคล่องในตลาด
- กองทัพอิสราเอล (IDF) ออกมาแถลงการณ์ในวันนี้ว่า ได้เปิดฉากโจมตีใส่เป้าหมายที่เป็นกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน เพื่อเป็นการตอบโต้จากการถูกโจมตีโดยพวกนิกายชีอะห์
- อินเดียสร้างสถิติผู้ติดเชื้อโคโรน่าไวรัสเพิ่มเติมสูงกว่า 60,000 คนเป็นวันที่ 8 ติดต่อกันในวันนี้ และทำให้มียอดรวมของผู้ป่วยสูงเกินกว่า 3.2 ล้านคน ตามการรายงานของหน่วนงานสาธารณสุขของประเทศ
- นักวิเคราะห์จาก Credit Suisse คาดการณ์ว่า หลังขยับขึ้นไปสร้างสถิติที่ 2,075 ดอลลาร์ ทองคำจะมีการปรับฐานราคาไปอีกเป็นระยะเวลานาน แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์ยังมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงอีก