การใช้งานเงินปอนด์ดิจิทัลโดยผู้บริโภคอาจสร้างความเสียหายแก่เสถียรภาพทางการเงิน, เพิ่มต้นทุนของเครดิต และทำลายความเป็นส่วนตัว แต่การใช้งานเป็นจำนวนมากโดยภาคธุรกิจการเงินยังต้องมีการประเมินเพิ่มเติม ตามความเห็นของกลุ่มผู้ร่างกฎหมาย UK เมื่อวานนี้
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และกระทรวงการคลังของ UK ได้เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนพ.ย.ว่า จะจัดการประชุมในปีนี้ถึงการเดินหน้าจัดตั้งสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ว่าจะสามารถเปิดตัวอย่างเร็วสุดภายหลังปี 2025 ได้หรือไม่
ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกต่างยกระดับการทำงานเกี่ยวกับ CBDC เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกครองอำนาจโดยภาคเอกชนในส่วนของการชำระเงินแบบดิจิทัลจากการใช้เงินสดที่ลดลง และความคาดหวังถึงการใช้งานอย่างแพร่หลายของคริปโทเคอร์เรนซีจากกิจการขนาดใหญ่
แต่จากรายงานโดยคณะกรรมาธิการของสภาขุนนางใน UK ก็ได้เผยว่า การใช้งานปอนด์ดิจิทัลในชีวิตประจำวันของครัวเรือนและภาคธุรกิจอาจทำให้ผู้คนเคลื่อนย้ายเงินสดจากบัญชีธนาคารไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัล
ซึ่งอาจก่อให้เกิดความไร้เสถียรภาพทางการเงินในยามที่เกิดความตึงเครียดทางเศรษฐกิจ และเพิ่มต้นทุนของการกู้ยืมเนื่องจากหนึ่งในแหล่งทรัพยากรหลักของผู้ให้สินเชื่อมีปริมาณเงินทุนที่ร่อยหลอลงไป
นอกจากนี้ปอนด์ดิจิทัลยังอาจสร้างปัญหาให้กับเรื่องความเป็นส่วนตัว โดยในรายงานได้กล่าวเสริมว่าเพราะมันจะเป็นการเปิดช่องทางให้ BoE สามารถเข้ามาสอดส่องการใช้จ่ายของผู้ใช้งานได้
ประธานคณะกรรมาธิการกิจการด้านเศรษฐกิจยังกล่าวถึงรายงานของ BoE ที่ชี้ถึงผลประโยชน์ที่อาจได้รับจาก CBDC ว่ามีเนื้อหาที่กล่าวเกินจริง หากแต่มันก็อาจเป็นเครื่องมือที่ดีสำหรับป้องกันภัยคุกคามที่มาจากคริปโทเคอร์เรนซีของภาคเอกชนต่าง ๆ
แต่ในรายงานยังได้กล่าวถึงการใช้งานแบบเหมารวมของ CBDC เพื่อการโอนยอดเงินขนาดใหญ่ ว่าอาจทำให้การซื้อขายหลักทรัพย์และการชำระหนี้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจมีการหารือเพิ่มเติมระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อการขยายระบบชำระราคาที่มีอยู่เดิม
รัฐสภาของ UK ควรจะเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายสำหรับการจัดตั้งเงินปอนด์ดิจิทัล ซึ่งในรายงานยังได้เรียกร้องให้กลุ่มผู้ร่างกฎหมายร่วมกันลงมติถึงแนวทางในการควบคุมสกุลเงินดังกล่าว
ประธานคณะกรรมาธิการยังพาดพิงไปถึง จอห์น เกล็น รมช.การคลังที่ล้มเหลวในการให้การสร้างความมั่นใจว่า CBDC จะไม่ได้เป็นเพียงเรื่องที่ BoE และกระทรวงการคลังปั้นแต่งขึ้นมาและจะถูกตัดสินใจโดยคณะรัฐบาล
เขายังให้ความเห็นต่อไปว่า CBDC น่าจะมีผลกระทบอันกว้างขวางสำหรับครัวเรือน, ภาคธุรกิจ และระบบการเงิน ซึ่งทำให้มันมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภา
ในขณะที่โฆษกของกระทรวงการคลังก็ได้ตอบโต้ความเห็นของประธานคณะกรรมาธิการกิจการด้านเศรษฐกิจโดยกล่าวไว้ว่า ยังไม่มีการตัดสินใจเรื่องการจัดตั้งหรือการนำเสนอ CBDC แต่อย่างใดในเวลานี้
References :