รู้หรือไม่ – ล่าสุดอิหร่านประกาศจะสะสมยูเรเนียมเสริมสมรรถนะ 20% เป็นจำนวน 120 กก.ต่อปี
หลายฝ่ายหันมาจับตาความเคลื่อนไหวของอิหร่านอีกครั้งในช่วงออกสตาร์ทปี 2021 เหมือนเมื่อปีที่ผ่านมา หลังการยึดเรือบรรทุกน้ำมันของเกาหลีใต้ภายในสัปดาห์แรกของปี และการประกาศเดินหน้าเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียมขึ้นไปที่ 20%
อิหร่านกล่าวถึงการยึดเรือบรรทุกน้ำมันว่าเป็นการตอบโต้เกาหลีใต้ที่เป็นผู้กักเก็บเงินจำนวน 7 พันล้านดอลลาร์ของพวกเขาเอาไว้ ตามแผนนโยบายกีดกันของปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯเมื่อปี 2018
แต่ความเคลื่อนไหวที่น่าจะสร้างความหนักใจให้กับ โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐคนใหม่ คือการแหกกฎข้อตกลงอาวุธนิวเคลียร์อิหร่าน (JCPOA) ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่เขาต้องมาตามเคลียร์ปมปัญหาที่รัฐบาล ทรัมป์ เคยสร้างเอาไว้
ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับยูเรเนียมเสริมสมรรถนะ 20% คือระดับของการเสริมสมรรถนะให้กับแร่กัมมันตรังสีที่อิหร่านเคยกระทำระหว่างช่วงปี 2010-13 ซึ่งส่งผลให้ทั้งสหรัฐฯและสหภาพยุโรปต้องหันมาร่วมมือกันเพื่อหาแนวทางควบคุมกิจกรรมดังกล่าว
จนกลายเป็นที่มาของข้อตกลง JCPOA ที่เริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2016 ซึ่งจะอนุญาตให้อิหร่านสามารถเสริมสมรรถนะให้กับ U-235 ได้เพียง 3.67% โดยที่ U-235 คือหนึ่งในไอโซโทปหลักของยูเรเนียมที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูและระเบิดนิวเคลียร์
โดยเกณฑ์ขั้นต่ำของอาวุธนิวเคลียร์จะอยู่ที่ 400 กก.ของ U-235 เสริมสมรรถนะที่ 20% ถึงแม้ยูเรเนียมเกรดใช้ทำอาวุธจริง ๆ จะอยู่ที่ระดับ 90% ของ U-235 แต่การเสริมสมรรถนะแค่ 3-4% ก็เป็นกระบวนการที่ผ่านขั้นตอน 2 ใน 3 ของการทำให้ยูเรเนียมพัฒนาไปจนถึงเกรดอาวุธ
ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ได้ให้ความเห็นไว้ว่า อิหร่านกำลังพยายามเพิ่มอำนาจต่อรองกับรัฐบาลของ ไบเดน ด้วยความหวังที่จะให้สหรัฐฯกลับมาเข้าร่วมข้อตกลงอีกครั้ง หลังจาก ทรัมป์ เป็นผู้นำพาประเทศถอนตัวออกมาในปี 2018
จากร่างกฎหมายล่าสุดที่ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภาของอิหร่าน ซึ่งอยู่นอกเหนือเสียงคัดค้านจากคณะรัฐบาลของปธน. ฮัสซัน รูฮานี ได้มีบทบัญญัติให้อิหร่านสามารถยกระดับของโครงการนิวเคลียร์และแผนการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา อิหร่านจะคอยโต้เถียงถึงแผนการพัฒนานิวเคลียร์ของตนเองว่าเป็นไปเพื่อจุดประสงค์ทางด้านสันติเท่านั้น และยังกล่าวปกป้องการละเมิดข้อกำหนดตามข้อตกลง JCPOA นับตั้งแต่ก.ค.ปี 2019 ว่าเป็นการตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ โมฮัมเหม็ด จาวาด ซารีฟ รมว.ต่างประเทศอิหร่านจะกล่าวไว้เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ว่า แผนการดังกล่าวสามารถถูกยกเลิกได้ หากสหรัฐฯและ EU ยอมกลับมาปฏิบัติตามข้อตกลง JCPOA ซึ่งอิหร่านก็จะยอมทำตามด้วย
ไบเดน ได้เคยเปิดเผยไว้ก่อนหน้านี้ว่าเขามีเป้าหมายที่จะให้สหรัฐฯกลับไปเข้าร่วมข้อตกลง JCPOA หากแต่รัฐบาลเตหะรานคงไม่ยอมให้พวกเขาเดินกลับเข้ามาแบบง่าย ๆ และน่าจะมีข้อเรียกร้องถึงการยกเลิกนโยบายกีดกันจากรัฐบาลของ ทรัมป์ เป็นข้อแลกเปลี่ยน
สุดท้ายแล้วความเคลื่อนไหวของอิหร่านนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีขึ้นเพื่อต้องการย้ำเตือนต่อประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะคณะรัฐบาลของ ไบเดน ว่า พวกเขาไม่ได้มีแค่ทางเลือกแบบสันติอยู่ในมือเท่านั้น
References :