เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักใน UK จนทำให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นจนกลายเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มต้นภาวะวิกฤต COVID-19 กำลังทำให้ภาคธุรกิจต้องปิดตัวลงอีกครั้งโดยไม่เกี่ยวข้องกับระเบียบข้อบังคับจากภาครัฐ
ร้านอาหารและย่านการค้าต่าง ๆ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการตัดสินใจหยุดกิจการเองชั่วคราวก่อนจะถึงช่วงเทศกาลคริสมาสต์ไม่นาน จากปริมาณการยกเลิกที่นั่งที่ถาโถมเข้ามาและความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของพนักงาน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกำลังกลายเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวสำหรับรัฐบาลลอนดอน และมันยังเป็นการบ่งชี้ให้เห็นว่าหากอัตราการติดเชื้อสูงเพียงพอผู้คนส่วนใหญ่ได้เรียนรู้มาแล้วก็ต่างพร้อมใจที่จะหลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอกด้วยตนเอง
แต่สิ่งที่แตกต่างจากการระบาดครั้งที่ผ่านมา คือนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐที่หดหายไป ซึ่งก็จะทำให้อุตสาหกรรมการบริการตกอยู่ในภาวะซบเซาภายในช่วงเวลาที่สำคัญ จากที่มีการประเมินกันว่าตามปกติจะสามารถสร้างรายได้ได้ถึง 1 ใน 4 ของทั้งปีภายในช่วงเวลาดังกล่าว
จากข้อมูลของการจองโต๊ะอาหารใน UK โดยเว็บไซต์ OpenTable เผยตัวเลขที่ลดลง 24% ในวันอังคารและ 22% ในวันพุธเมื่อเทียบกับปี 2019 ในขณะที่อัตราการจองโต๊ะของทั่วโลกลดลง 18% และ 15% ตามลำดับ
พนักงานที่อยู่ในธุรกิจประเภทนี้ก็มีความกังวลเกี่ยวกับอัตราการติดเชื้อที่สูงขึ้นในกลุ่มผู้ร่วมงานเช่นกัน โดยเจ้าของร่วมของ Forza Wine ร้านอาหารแห่งหนึ่งในลอนดอนเปิดเผยว่า จากพนักงานทั้งหมด 31 คนมีผู้ที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจาก 2 คนในวันอาทิตย์ไปเป็น 10 คนในวันพุธ
จนถึงขณะนี้นายกฯ บอริส จอห์นสัน ก็ยังหลีกเลี่ยงการออกมาตรการเด็ดขาดเพิ่มเติม แต่เลือกที่จะรณรงค์ให้ผู้คนทำงานอยู่ที่บ้าน และกำหนดให้มีการสวมใส่หน้ากากและแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนหรือผลทดสอบเชื้อในการเข้าไปตามคลับหรือการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ
แต่นั่นก็ทำให้เขากำลังเผชิญหน้ากับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากอุตสาหกรรมการบริการว่า นี่ก็เปรียบเสมือนการลักลอบใช้มาตรการล็อกดาวน์โดยปราศจากการช่วยเหลือทางการเงินแบบเนียน ๆ
นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันการเงิน UBS กล่าวว่า การล่มสลายในอุตสาหกรรมบันเทิงและการบริการด้วยตนเองก่อนถึงช่วงเทศกาลคริสมาสต์ อาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่กำลังหยุดนิ่งจากปัญหาภาวะเงินเฟ้ออยู่แล้ว
ด้วยการช่วยเหลือที่ขาดหายไปในคราวนี้ หนึ่งคำถามใหญ่ที่จะตามมาในไม่ช้าก็คือร้านอาหารที่ตัดสินใจปิดตัวไปก่อนจะยังคงจ่ายค่าแรงให้กับลูกจ้างต่อหรือไม่ เพราะหากไม่ก็จะทำให้แรงงานเหล่านั้นมีรายได้ลดลงในทันที
ในท้ายที่สุดแล้วขนาดความเสียหายของเศรษฐกิจจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ผู้คนเลือกจะเก็บตัวอยู่แต่ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ และนั่นก็อาจจะขึ้นอยู่กับแผนการในลำดับถัดไปของรัฐบาลและพัฒนาการของเชื้อไวรัส
แต่ข่าวดีที่ยังพอมีอยู่ก็คือ กิจการเหล่านั้นต่างเคยผ่านเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน โดยที่ยังมีแนวทางของการขายอาหารแบบเอากลับบ้านหรือบริการส่งถึงที่อยู่ และหากพวกเขาต้องการกลับไปใช้วิธีการเหล่านั้นก็น่าจะใช้ต้นทุนในการเริ่มต้นที่ไม่สูงนัก
References :
https://edition.cnn.com/2021/12/17/business/uk-business-omicron/index.html
