การบุกโจมตียูเครนของรัสเซียกำลังทำให้ราคาข้าวสาลีพุ่งสูงขึ้นและซ้ำเติมปัญหาราคาอาหารที่อยู่ในระดับสูงขณะนี้ โดยสัญญาซื้อขายข้าวสาลีปรับตัวขึ้นประมาณ 5.35% เมื่อวานนี้ หลังแตะระดับราคาที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนตั้งแต่ปี 2008
ยูเครนและรัสเซียร่วมกันรับผิดชอบการผลิตข้าวสาลีทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 14% และมีสัดส่วนในการจัดหา 29% ของการส่งออกข้าวสาลีทั้งหมด โดยเฉพาะยูเครนก่อนการถูกบุกรุกโดยรัสเซียกำลังอยู่บนเส้นทางของการสร้างสถิติต่อปีของการส่งออกข้าวสาลี
ด้วยระดับราคาของข้าวสาลีที่สูงอยู่แล้ว ความขัดแย้งในต่างประเทศจึงยิ่งกดดันระบบซัพพลายเชนที่มีปัญหาอยู่ โดยรัสเซียที่เป็นผู้ส่งออกหรือข้าวสาลีอันดับต้น ๆ และยูเครนที่อยู่ในอันดับที่ 5 ซึ่งทั้งสองประเทศมีคู่แข่งขันในตลาดส่งออกอย่าง อียิปต์, ตุรกี และบังกลาเทศ
จึงทำให้มีแนวโน้มว่ามันจะผลักดันราคาสินค้าอุปโภคบริโภคของสหรัฐฯ เช่น ซีเรียลและขนมปังให้สูงขึ้น หลังราคาของสินค้ากลุ่มธัญพืชและขนมอบขยับเพิ่มขึ้น 6.8% ในปีที่แล้วเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ
การกระทำของรัสเซียยังก่อให้เกิดปัญหาการติดขัดครั้งใหญ่ขึ้นที่ท่าเรือขนส่งของยูเครน และกำลังสร้างปัญหาให้กับการจัดหาข้าวสาลีทั่วโลก ถึงแม้ความต้องการจะคงที่หรือเพิ่มขึ้นและการจัดหามีปริมาณลดลง ราคาก็ยังจะสูงขึ้นกว่าเมื่อช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19
จากข้อมูลขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เผยว่า ราคาอาหารทั่วโลกขยับตัวขึ้นมากถึง 28% ในปี 2021 โดยมีสาเหตุจากการติดขัดในระบบซัพพลายเชนและสภาพลมฟ้าอากาศสุดโต่ง ส่วนสถานการณ์ในยูเครนก็ยิ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาเข้าไปอีก
อย่างไรก็ตามสมาคมแบรนด์สินค้าผู้บริโภคสหรัฐฯ (CBA) ได้กล่าวไว้ว่า สำหรับตลาดในประเทศมีการนำเข้าส่วนประกอบเข้ามาเพียง 8% โดยสินค้าที่นำเข้าส่วนใหญ่ยังมาจากเม็กซิโกและแคนาดา
ด้วยราคาของข้าวสาลีที่สูงขึ้นยังจะกลายเป็นข่าวดีสำหรับเกษตรกรในสหรัฐฯ เนื่องจากความต้องการที่จะหลั่งไหลเข้ามาเพิ่มขึ้น แต่ถึงกิจการส่วนใหญ่ในสหรัฐฯจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤตในยูเครน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่เผชิญกับแรงกดดันใด ๆ เลย
รองประธานของบริษัทวิเคราะห์ Gro Intellligence ให้ความเห็นว่า หลายครั้งที่มักจะได้เห็นปริมาณความต้องการวนกลับเข้ามายังสหรัฐฯเมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญที่มีผลต่อการส่งออก แต่มันก็จะมาพร้อมกับสิ่งที่ต้องแลกด้วยอัตราที่สูงกว่า
โดยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเราจะได้เห็นบริษัทอาหารต้องจัดการกับปัญหาราคาที่สูงขึ้น และถึงแม้บรรดาผู้ผลิตอาจจะเลือกการแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นบางส่วน แต่พวกเขามีแนวโน้มสูงกว่าที่จะผลักภาระดังกล่าวไปยังผู้บริโภค
จากรายงานของสำนักงานสถิติสหรัฐฯในเดือนก.พ.ระบุว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ใช้ติดตามการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ผู้ผลิตจ่ายออกไปสำหรับสินค้าและบริการ มีการเติบโตขึ้น 9.7% จากเมื่อ 12 เดือนก่อน
Gro Intellligence ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า มีแนวโน้มที่ผู้ผลิตจะขยับราคาขึ้นจากต้นทุนที่สูงขึ้น โดยเฉพาะจากราคาข้าวสาลีที่ไม่ได้แพงขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่สินค้าโภคภัณฑ์การเกษตรอื่น ๆ เช่น ข้าวโพดและถั่วเหลืองยังขยับตามขึ้นไปด้วย โดยที่ยังไม่ต้องกล่าวถึงราคาน้ำมัน
References :
https://edition.cnn.com/2022/03/01/business/wheat-prices-russia-ukraine/index.html