รู้หรือไม่ – ทรัมป์ ใช้เวลากล่าวคำปราศรัยในงาน National Convention เมื่อคืนไปทั้งหมด 70 นาที
การพรรณนาให้เห็นภาพอันน่าขนลุกหาก โจ ไบเดน ได้ก้าวขึ้นมาครองตำแหน่งผู้นำของสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ฉายซ้ำอยู่เป็นประจำไม่เว้นแม้แต่ในการกล่าวคำปราศรัยกลางงานใหญ่ของพรรครีพับลิกันก่อนการเลือกตั้งปลายปีนี้
ภายในงาน National Convention วันสุดท้ายของพรรครีพับลิกันเมื่อคืนที่ผ่านมา เขาเริ่มสาธยายถึงความสำเร็จภายใต้ยุคสมัยของตนเอง ที่รวมไปถึงข้อตกลงทางการค้าและสภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯในช่วงก่อนเกิดโรคระบาด
เขายังให้คำมั่นที่จะรับประกันการจ้างงานเพิ่มขึ้นและควบคุมปัญหาการระบาดของโรค COVID-19 ซึ่ง ทรัมป์ ก็พยายามกล่าวถึงในแง่ดีว่า วัคซีนป้องกันโคโรน่าไวรัสอาจจะพร้อมใช้งานในประเทศได้ก่อนการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.
เขายังพยายามชูประเด็นถึงเรื่องที่สหรัฐฯ มีอัตราการเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสต่ำสุดในบรรดาประเทศที่อยู่แถวหน้า โดยอ้างว่าอัตราการเสียชีวิตในสหภาพยุโรปมีสูงกว่าสหรัฐฯถึงเกือบ 3 เท่า
หากอ้างอิงจากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ สหรัฐฯมีอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยอยู่ที่ 3.1% ซึ่งก็เป็นตัวเลขที่ดีกว่าอิตาลี, เบลเยี่ยม, ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์, สเปน และเยอรมนี
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ ทรัมป์ พยายามชี้นำอาจเป็นการหลบเลี่ยงปัญหาที่แท้จริง เนื่องจากสหรัฐฯมีตัวเลขของผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตก็คิดเป็นสัดส่วน 54.93 รายต่อประชากร 1 แสนคน ซึ่งก็อยู่ในลำดับที่ 11 ของทุกประเทศทั่วโลก
เมื่อกล่าวถึงประเด็นด้านการค้า ทรัมป์ ก็หันไปโจมตีคู่แข่งจากพรรคเดโมแครตว่ามักทำสิ่งที่ผิดพลาดอยู่เสมอ จากในอดีตที่ ไบเดน เคยให้การสนับสนุนข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ที่ ทรัมป์ มองว่าเป็นหายนะ
เขาชี้ให้เห็นว่า NAFTA ที่หลายฝ่ายมองว่ายากที่จะยกเลิก แต่เขาสามารถยุติข้อตกลงดังกล่าวและแทนที่มันด้วยข้อตกลงการค้าสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ซึ่งทำให้บริษัทรถยนต์และอื่น ๆ สามารถสร้างโรงงานในภูมิภาคและก่อให้เกิดการสร้างงาน
ในความเป็นจริงแล้ว USMCA เป็นการแก้ไขข้อตกลงเดิมที่ยังมีผลอยู่ในระดับหนึ่ง มันยังรวมถึงส่วนประกอบบางอย่างที่คล้ายคลึงกับความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) และดีลเก่าที่รัฐบาลของ บารัค โอบาม่า เคยร่วมลงนามไว้
ทรัมป์ ยังโจมตี ไบเดน ไปถึงการที่ไม่ยอมกล่าวถึงสถานการณ์ความวุ่นวายและอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในเมืองที่ถือหางพรรคเดโมแครต และแทนที่จะกล่าวโทษผู้ก่อเหตุ ทีมงานของ ไบเดน กลับช่วยบริจาคเงินเพื่อประกันตัวกลุ่มวายร้ายเหล่านั้นออกมาจากคุก
จากการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ จนมาถึงเหตุการณ์ที่ตำรวจยิงใส่ เจคอบ เบลค ชายผิวดำวัย 29 ปีจากด้านหลัง ก็ทำให้กลุ่มผู้ประท้วงต้านการเหยียดผิวยิ่งออกมาลุกฮือไปทั่วประเทศ
ในหลาย ๆ พื้นที่ของสหรัฐฯ มีผู้คนออกมาก่อความวุ่นวายและทำลายทรัพย์สิน โดย ทรัมป์ มุ่งเป้าไปยังการตีกรอบบุคคลเหล่านั้นว่าเป็นตัวอันตราย แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่เคยพูดถึงแนวทางการลดความรุนแรงจากผู้บังคับใช้กฎหมาย
นอกจากนี้เขายังกล่าวโทษไปถึงจีนว่าเป็นตัวการทำให้เกิดโรคระบาด และให้สัญญาว่าหากเขาได้อยู่ในตำแหน่งต่อไปจะใช้นโยบายด้านภาษีกับบริษัทที่ละทิ้งสหรัฐฯ และออกไปสร้างงานในต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายแปลกประหลาดที่เข้ากับตัวเขา
References :
https://www.cnbc.com/2020/08/28/trump-rnc-speech-highlights.html