การปรับเพิ่มกำลังการผลิตขององค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (OPEC) ยังมีผลลัพธ์ที่ออกมาน้อยกว่าแผนการที่วางเอาไว้ ด้วยปัญหากระแสไฟฟ้าดับในบริษัทผู้ผลิตบางรายจากซาอุดิอาระเบียและอิรัก ตามการสำรวจของสำนักข่าว Reuters
จากผลสำรวจพบว่า OPEC ผลิตน้ำมันออกมา 27.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นอัตราที่สูงขึ้น 190,000 bpd จากเมื่อเดือนก.ย. แต่ยังคงอยู่ต่ำกว่าขอบเขตสูงสุดที่ทางองค์การกำหนดเอาไว้ 254,000 bpd
ทางองค์การและกลุ่มชาติชาติพันธมิตรที่รวมตัวกันภายใต้ชื่อ OPEC+ กำลังทยอยผ่อนผันแผนการปรับลดกำลังผลิตที่เริ่มต้นขึ้นในปี 2020 หลังการฟื้นตัวของความต้องการจากภาวะวิกฤต COVID-19 แต่ดูเหมือนสมาชิกบางรายยังไม่สามารถเพิ่มผลผลิตได้ตามที่คาดหวัง
นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทพลังงาน Rystad Energy ให้ความเห็นว่า OPEC+ มีแนวโน้มที่จะคงระดับการผลิตให้อยู่ต่ำกว่าเส้นอุปสงค์ เนื่องจากความกังวลว่าจะปล่อยน้ำมันออกมามากเกินไปในกรณีที่เกิดสถานการณ์ไม่เป็นใจจากปัญหาเชื้อไวรัสขึ้นมาอีก
ภาวะวิกฤตในระบบซัพพลายเชนกลายเป็นแรงหนุนให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นจนวนเวียนอยู่แถวระดับ $85 ต่อบาร์เรลและใกล้กับสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี จนทำให้สหรัฐฯและประเทศผู้บริโภครายอื่น ๆ ต่างเรียกร้องให้กลุ่มผู้ผลิตเพิ่มปริมาณการจัดหา
จากข้อตกลงของ OPEC+ ได้อนุญาตให้มีการเพิ่มผลผลิตจากประเทศสมาชิกทั้งหมด 400,000 bpd และอีกประมาณ 254,000 bpd ที่จะถูกแบ่งโดย 10 ประเทศสมาชิกของ OPEC เพื่อให้ครอบคลุมกับข้อตกลงทั้งหมด
ปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในเดือนต.ค.มาจาก 2 ผู้ผลิตรายใหญ่ของ OPEC คือซาอุฯและอิรัก โดยทั้ง 2 ประเทศสามารถกระตุ้นกำลังการผลิตขึ้นมาจนครอบคลุมตามที่ตกลงกันไว้ได้เป็นส่วนใหญ่
คูเวต, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และแอลจีเรียก็สามารถเพิ่มผลผลิตขึ้นมาได้ หลังจากที่พวกเขาเคยเรียกร้องโควตาที่สูงกว่าที่ได้รับในเดือนต.ค. ในขณะที่ยอดการส่งออกของแองโกลาก็พลิกสถานการณ์กลับจากที่มีแนวโน้มว่าจะลดลงจนขึ้นมาเป็นบวกได้ในเดือนต.ค.
แต่ผลผลิตจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, อิเควทอเรียลกินี และกาบองกลับมีตัวเลขที่ลดลงหรือไม่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ไนจีเรียได้กลายเเป็นประเทศที่มีผลผลิตลดลงมากที่สุดด้วยปริมาณ 70,000 bpd
กลุ่มธุรกิจร่วมลงทุนของ Royal Dutch Shell ในไนจีเรียเปิดเผยสาเหตุว่า มาจากเหตุสุดวิสัยในการขนถ่ายน้ำมันดิบ Bonny Light หลังการหยุดทำงานของท่อขนส่ง ในขณะที่ลิเบียที่มีผลผลิตลดลงมากที่สุดเป็ยอันดับ 2 ก็มีสาเหตุมาจากท่อขนส่งรั่ว
ผลผลิตของอิหร่านที่มียอดการส่งออกสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 4 แม้จะถูกมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ มีอัตราเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในเดือนต.ค. ในขณะที่การเจรจาเพื่อรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ที่จะทำให้ยอดการส่งออกขยายตัวขึ้นก็มีกำหนดการที่จะเริ่มต้นในเร็ว ๆ นี้
ในขณะเดียวกันผลผลิตของเวเนซุเอล่าก็ขยับขึ้นเล็กน้อย โดยได้รับการช่วยเหลือจากการนำเข้าแก๊สธรรมชาติเหลวจากอิหร่าน ที่ช่วยให้พวกเขาสามารถแปรเปลี่ยนน้ำมันหนักพิเศษไปเป็นน้ำมันดิบที่สามารถส่งออกได้
References :