ผลวิจัยชี้เงินทุนจากสถาบันยังหลั่งไหลเข้าสู่แวดวงอุตสหากรรมถ่านหิน

สถาบันการเงินหลายแห่งเปิดช่องทางการปล่อยสินเชื่อและประกันภัยให้กับอุตสาหกรรมถ่านหินมากกว่า $1.5 ล้านล้านระหว่างปี 2019 ถึง 2021 แม้จะมีการให้คำปฏิญาณในการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ก็ตาม

จากรายงานข้อมูลขององค์กรอิสระร่วมกัน 28 แห่งระบุว่า การลดการใช้งานถ่านหินคือ 1 ในปัจจัยหลักของการไปให้ถึงเป้าหมาย Net Zero ภายในกลางศตวรรษนี้ ซึ่งทั้งรัฐบาล, กิจการ และสถาบันการเงินต่าง ๆ ทั่วโลกต่างก็ให้คำมั่นในการบรรลุเป้าหมายนี้

แต่ธนาคารหลายแห่งยังคงให้เงินทุนแก่กิจการ 1,032 แห่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำเหมือง, การค้า, การขนส่ง และการใช้ประโยชน์จากเชื้อเพลิงฟอสซิลชนิดนี้ โดยอ้างว่าต้องการช่วยเหลือกิจการเหล่านั้นในการเปลี่ยนผ่านยุคของพลังงาน

หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านการเงินของสถาบัน Urgewald โต้แย้งว่า ในความเป็นจริงแล้วแทบไม่มีกิจการใดในกลุ่มนั้นที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการเปลี่ยนผ่าน และบริษัทเหล่านั้นยังมีแรงจูงใจเพียงเล็กน้อยที่จะกระทำตราบใดที่ธนาคารยังคงปล่อยเช็คให้กับพวกเขา

จากผลการศึกษาเพิ่มเติมพบว่า สถาบันการเงินหลัก ๆ จาก 6 ประเทศ ได้แก่ จีน, สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น, อินเดีย, UK และแคนาดาต่างมีส่วนรับผิดชอบต่อสัดส่วน 86% ของการปล่อยเงินทุนสนับสนุนกิจการถ่านหินทั่วโลกภายในระยะเวลาดังกล่าว

เงินกู้ยืมโดยตรงเป็นจำนวน $3.73 แสนล้านโดยธนาคาร Mizuho Financial Group และ Mitsubishi UFJ Financial Group ที่ต่างก็เป็นสมาชิกของกลุ่ม Net Zero Banking Alliance ถูกระบุว่าเป็น 2 ผู้ปล่อยกู้รายใหญ่สุด

ในขณะที่วงเงินอีก $1.2 ล้านล้านถูกส่งต่อให้กับกิจการถ่านหินผ่านการประกัน โดยท็อป 10 ของบริษัทผู้รับประกันมาจากจีน ซึ่งนำมาโดยธนาคารพาณิชย์อุตสาหกรรมแห่งประเทศจีน (ICBC) ที่ครองสัดส่วนวงเงินไปราว $5.7 หมื่นล้าน

ส่วนการลงทุนระดับสถาบันในอุตสาหกรรมถ่านหินระหว่างช่วงเวลานั้นก็อยู่ที่ $4.69 แสนล้าน ซึ่งนำมาโดย BlackRock ที่ยอด $3.4 หมื่นล้าน โดย CEO ของบริษัทการลงทุนชื่อดังได้กล่าวไว้เมื่อเดือนก่อนว่า การละทิ้งภาคอุตสาหกรรมนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero

แม้ในขณะนี้จะยังไม่มีข้อมูลตัวเลขของการระดมทุนสำหรับกิจการถ่านหินเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ แต่จากผลการศึกษาวิจัยอื่น ๆ ก็พบว่าแนวโน้มของการลงทุนในภาคส่วนนี้กำลังลดลง

อุตสาหกรรมถ่านหินมีส่วนรับผิดชอบในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกไปกว่าครึ่ง โดยมีมากกว่า 40 ประเทศได้ให้คำปฏิญาณที่จะยุติการใช้งานถ่านหินในการประชุม COP26 ที่เมืองกลาสโกว์เมื่อเดือนพ.ย. แต่ประเทศอย่างจีน, อินเดีย และสหรัฐฯกลับไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่ร่วมลงนาม

อย่างไรก็ตามแผนการขยายขีดความสามารถของโรงไฟฟ้าถ่านหินในต่างประเทศที่จีนเข้าไปลงทุนกลับถูกยกเลิกมากกว่าการได้รับอนุมัตินับตั้งแต่ปี 2017 ตามผลการศึกษาของศูนย์วิจัยพลังงานและมลพิษทางอากาศ (CREA) ในเดือนมิ.ย.ปีก่อน

นอกจากนี้การวิจัยจากศูนย์พัฒนาของม.บอสตันเมื่อพ.ย.ปีก่อนเปิดเผยว่า เงินทุนเพื่อการพัฒนาที่มีอยู่ทั่วโลกเกือบทั้งหมดในปัจจุบันมีความมุ่งมั่นในการลดหรือยุติการลงทุนในพลังงานถ่านหิน หลังจากที่จีนและกลุ่มประเทศ G20 หยุดสนับสนุนโครงการใหม่ในต่างประเทศ

References :

https://edition.cnn.com/2022/02/15/business/energy-finance-climate-banks-coal-intl/index.html