ปรากฏการณ์ค่าไฟแห่งประเทศไทย
ณ ขณะนี้ หลายบ้านคงได้รับใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้าเดือนล่าสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นที่โจษจันกันทั่วทั้งบ้านทั้งเมืองว่า “แพงมหาโหด”
มหาโหดคือกระโดดจากที่เคยจ่ายปกติไปเยอะ ถ้าคิดว่าหลักพันเป็นหลักหมื่นน่าตกใจ
บางหลังไม่มีใครอยู่บ้านพร้อมเอาคัทเอาท์ลงแต่ปรากฏว่าใบแจ้งหนี้มาหลักหมื่น แสดงว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ
และอะไรบางอย่างที่สงสัยนั้นเกี่ยวพันกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ขยายวงกว้างไปทั้งโลกจนทำให้วงจรเศรษฐกิจสะดุดไปทุกหย่อมหญ้า
ในประเทศไทย ตั้งแต่รัฐบาลประกาศให้ประชาชน Lockdown อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ พร้อมกับออกมาตรการเยียวยาด้วยการคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
และให้ส่วนลด 3 เปอร์เซ็นต์
ภาระในการคืนเงินให้กับคนเกือบทั้งประเทศจึงตกไปอยู่ในมือของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยถึงปัจจุบันก็ยังไม่สามารถคืนเงินให้กับทุกครัวเรือนได้ครบ
ซึ่งภายใต้มาตรการช่วยเหลือเยียวยานี้ เมื่อนำมาหักล้างเหตุผลกับใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้า จึงเกิดคำถามว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทราบเป็นอย่างดีแล้วว่าสามารถนำเงินกลับเข้ามาชดเชยให้กับการไฟฟ้าได้อย่างไร… ใช่หรือไม่? นี่คือข้อสงสัยที่ 1
อะไรบางอย่างที่สงสัยข้อที่ 2 คือ การออกมาเปิดเผยวิธีคิดค่าไฟอัตราก้าวหน้า หรือใช้มากจ่ายมากนั้นเป็นความพยายามของภาครัฐที่จะสร้างความชอบธรรมเรื่องค่าไฟแพง ด้วยการบอกกับประชาชนว่าอากาศช่วงหน้าร้อนทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานหนัก และเพราะประชาชนส่วนมากอยู่บ้านจึงทำให้มีการใช้ไฟฟ้าเยอะ
ซึ่งเมื่อมีบางครอบครัวยืนยันว่าใช้ไฟเท่าเดิม หรือปิดบ้านไม่ได้ใช้ไฟฟ้า
นั่นอาจจะหมายความว่าตัวเลขที่ระบุจำนวนหน่วยการใช้ไฟฟ้าบนมิเตอร์ไม่อาจเชื่อถือได้?
ข้อสงสัยที่สำคัญที่สุด คือเมื่อประชาชนอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ สิ่งที่ตอบแทนกลับมาจากรัฐบาลคือการขึ้นค่าไฟอย่างนั้นหรือ
การหยุดอยู่บ้านสร้างผลกระทบให้กับวงจรเศรษฐกิจตั้งแต่ฐานรากยันรัฐวิสาหกิจระดับชาติ คนขาดรายได้เพราะไม่สามารถออกไปทำมาหากิน
แล้วจะนำเงินที่ไหนมาจ่ายค่าไฟ
ประเด็นนี้ยังมีคนที่เข้าใจผิดพลาดอยู่เยอะ โดยโจมตีผู้ที่เดือดร้อนจากค่าไฟแพงว่าใช้ไฟเยอะ ก็ต้องจ่าย เป็นเรื่องปกติที่ไม่ควรโวยวาย
ซึ่งความหมายของคนที่เดือดร้อนคือรายได้ขาดหายไป จะเอาจากไหนมาจ่ายค่าไฟ
3.คำถามหลักๆนี้คืออะไรบางอย่างที่สงสัยโดยเกี่ยวข้องกับมาตรการLockdown ของรัฐบาล
แม้ว่าล่าสุด จะมีประกาศให้เก็บค่าไฟโดยเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งอาจทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงอีกมากถึง 50-70 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกิดจากการที่คนจำนวนไม่น้อยออกมาเปิดเผยใบแจ้งหนี้ค่าไฟที่สูงผิดปกติ ซึ่งนั่นยิ่งสร้างคำถามขึ้นมาในใจประชาชนขึ้นมาใหม่ว่า… มันลดได้ขนาดนี้เชียวหรือ แล้วการไฟฟ้าจะไม่เจ๊งหรืออย่างไร เพราะถ้าค่าไฟไม่มีอะไรผิดปกติอย่างที่พยายามบอกมาก่อนหน้านี้ว่าสาเหตุมาจากชาวบ้านใช้ไฟเยอะ
การเยียวยาแบบบ้าระห่ำลดกระหน่ำSummer sell มโหฬารอลังการนี้จะทำไปเพื่ออะไร
ปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ หากบางบ้านพิสูจน์ได้ว่ามีการนำคัทเอาท์ลงและไม่มีการใช้ไฟ ในขณะที่ใบแจ้งหนี้ระบุตัวเลขค่าไฟหลักหมื่น การไฟฟ้าจะตอบคำถามอย่างไร ความน่าเชื่อถือของประชาชนต่อการจดเลขมิเตอร์ในอนาคตจะเปลี่ยนไปหรือไม่
ทั้งนี้ มีกรณีค่าไฟในประเทศมาเลเซียที่สร้างความแปลกใจให้กับชาวมาเลย์เป็นอย่างยิ่ง หลังจากใบแจ้งหนี้ส่งมาที่บ้านแล้วพบว่า “ถูกเกินไป”
เมื่อประชาชนต่างสงสัยว่าทำไมค่าไฟถูก ปรากฏว่าคำตอบคือรัฐบาลจัดการช่วยเหลือโดยไม่ต้องร้องขอ … ประชาชนไม่ต้องออกมาโวยวาย
หากยังจำกันได้ ในเดือนนี้ของปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรีของไทยก็เคยกล่าวถึงประเด็นที่ประชาชนออกมาโวยเรื่องค่าไฟแพงว่า
“ค่าไฟแพงเพราะประเทศขาดรายได้ถ้าคิดว่าค่าไฟแพงก็ไปจุดเทียนไขใช้แทนเอา”
หรือจริงๆแล้ว นี่อาจจะเป็นคำตอบที่ชาวบ้านสงสัยในวันนี้?
หรือจริงๆแล้วค่าไฟฟ้าที่เราจ่ายในทุกเดือน เป็นตัวเลขที่สามารถวางแผนและจินตนาการได้โดยใช้สถิติอ้างอิงจากเดือนก่อนๆ
หรือจริงๆแล้วจำนวนหน่วยที่ระบุในใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้าว่าเราใช้แต่ละเดือนไปเท่าไรนั้น
อาจไม่ใช่ปริมาณการใช้ไฟตามความเป็นจริงของเรา?