รู้หรือไม่ – การดีเบตครั้งสุดท้ายของการชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐฯปี 2020 จะมีขึ้นในเวลา 8:00 น.ของวันที่ 23 ต.ค.
ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯยังเหลือโอกาสสุดท้ายในการพลิกสถานการณ์ที่ดูจะเป็นรอง จากการดีเบตรอบสุดท้ายกับอดีตรองปธน. โจ ไบเดน ในขณะที่เหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนจะถึงการเลือกตั้งครั้งสำคัญ
การเผชิญหน้ากันผ่านโปรแกรมถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศกลายเป็นสิ่งที่ ทรัมป์ ถวิลหาเป็นอย่างยิ่ง หลังจากโพลทุกสำนักต่างชี้ชัดว่าเขามีคะแนนตามหลัง ไบเดน แม้การชิงชัยในรัฐสำคัญต่าง ๆ จะยังมีคะแนนที่สูสีคู่คี่อยู่ก็ตาม
จากผลสำรวจยังแสดงให้เห็นถึงสัดส่วนที่มีอยู่เพียงน้อยนิดของผู้ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ในขณะที่ยังมีรายงานตัวเลขของชาวอเมริกันร่วม 42 ล้านคนที่ลงคะแนนเสียงล่วงหน้าไปแล้วภายในเมืองแนชวิลล์ของรัฐเทนเนสซี
การดีเบตที่เต็มไปด้วยการโต้เถียงในรอบแรกได้ผ่านสายตาผู้ชมทางบ้านไปอย่างน้อย 73 ล้านคน ก่อนที่การโต้วาทียกสองจะถูกยกเลิกไปเนื่องจากอาการป่วยด้วยโรค COVID-19 ของ ทรัมป์ ที่ไม่ต้องการดีเบตผ่านทางออนไลน์
จากอาการป่วยในช่วงที่ผ่านมาได้ทำให้ ทรัมป์ และพรรครีพับลิกันต้องห่างหายจากเวทีหาเสียงไปร่วมสัปดาห์ จนทำให้เขาพยายามกลับมาเดินสายอย่างบ้าคลั่งในเวลาต่อมา ซึ่งบางครั้งก็ถึงขั้นควบ 2 งานอีเวนต์ภายในวันเดียว
โปรแกรมการเดินทางของเขามุ่งเน้นไปกับรัฐที่ยังมีคะแนนกินกันไม่ลง อันประกอบไปด้วย แอริโซนา, ฟลอริดา, นอร์ทแคโรไลนา และเพนซิลเวเนีย โดยหวังที่จะเบียดคว้าชัยชนะจากผลการตัดสินของคณะผู้เลือกตั้งอีกครั้ง
จากโพลล่าสุดของ Reuters/Ipsos ระบุว่า ไบเดน ยังมีคะแนนนำหน้าเขาอยู่ 9 คะแนนทั่วประเทศ ซึ่งลดลงจาก 12 คะแนนในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนต.ค. หลังจากที่ ทรัมป์ ดูยังจะชิงเหลี่ยมได้เหนือกว่าในรัฐมิชิแกนและวิสคอนซิน
ทรัมป์ จำต้องจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบนเวทีดีเบต จากที่คอยจะขัดขวางการพูดและกล่าวโจมตี ไบเดน เป็นการส่วนตัว รวมถึงแสดงความไม่เคารพต่อผู้ดำเนินการรายการ เนื่องจากมีผลฟีดแบ็คที่ไม่ดีตามมาโดยเฉพาะจากผู้มีสิทธิโหวตที่เป็นเพศหญิง
ที่ปรึกษาของ จอห์น โบห์เนอร์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯจากพรรครีพับลิกันได้ให้ความเห็นไว้ว่า ทรัมป์ จำเป็นจะต้องถอยหนึ่งก้าวและเปิดช่องให้กับ ไบเดน เป็นผู้แสดงความผิดพลาดขึ้นมาด้วยตนเอง
ในการโต้วาทีรอบนี้ไมโครโฟนของตัวแทนทั้งสองจะถูกปิดในขณะที่คู่แข่งของพวกเขาใช้เวลา 2 นาที ในการเกริ่นนำประเด็นที่จะถูกใช้สำหรับการถกเถียง ก่อนจะเปิดให้ใช้งานตามปกติเมื่อเข้าสู่ช่วงอภิปราย
โดยหัวข้อในการดีเบตครั้งนี้จะประกอบไปด้วยภาวะโรคระบาด, ปัญหาด้านเชื้อชาติ, การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และประเด็นความมั่นคง ซึ่ง ทรัมป์ ก็ได้ออกมาแย้งว่าควรจะมีการพูดถึงนโยบายด้านการต่างประเทศรวมอยู่ด้วย
เป็นที่คาดหมายกันว่า ทรัมป์ น่าจะยังพยายามหาช่องในการโจมตี ไบเดน และ ฮันเตอร์ ลูกชายของเขาถึงประเด็นการทุจริตเกี่ยวกับการดีลธุรกิจในยูเครน ซึ่งยังไม่มีหลักฐานที่ยืนยันในข้อกล่าวหานี้
ก่อนการดีเบตครั้งนี้ ทรัมป์ ได้เริ่มเปิดศึกในวงกว้างโดยการกล่าวโจมตีนพ. แอนโทนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงด้านเชื้อโคโรน่าไวรัส และ คริสเทน เวลเกอร์ นักข่าวจาก NBC ที่จะกลายเป็นหญิงผิวดำคนแรกในรอบเกือบ 30 ปีที่ได้ทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการดีเบตชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐ
ในขณะที่ทางฝั่ง ไบเดน ก็งดการหาเสียงและใช้เวลาทั้งสัปดาห์เพื่อเตรียมตัวในการดีเบต โดยคาดว่าเขาก็ยังจะเน้นโจมตี ทรัมป์ ในประเด็นเรื่องการระบาดของเชื้อไวรัสที่เพิ่มสูงขึ้นในหลาย ๆ รัฐ
บางทีแรงกดดันบนเวทีดีเบตอาจจะตกไปอยู่กับฝ่ายอดีตรองปธน.สหรัฐฯ ในการพยายามที่จะแสดงออกถึงความมีวินัย เพื่อหวังโน้มน้าวกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใครในช่วงโค้งสุดท้าย
References :