JD.com บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีนสามารถสร้างยอดขาย 311.4 พันล้านหยวน ($48.6 พันล้าน) บนแพลตฟอร์มของตนเอง ณ เวลาประมาณบ่าย 2 โมงตามเวลาท้องถิ่นในเทศกาลวันคนโสด พร้อมทำลายสถิติของปีก่อนลงเป็นที่เรียบร้อย
จากข้อมูลที่เปิดเผยโดย JD อ้างอิงถึงปริมาณการทำธุรกรรม ซึ่งเป็นยอดรวมของเงินที่ทำรายการอยู่บนแพลตฟอร์มของพวกเขาโดยที่ยังไม่ได้แปรเปลี่ยนเป็นรายได้ของบริษัท และยังไม่ได้คิดรวมในส่วนของสินค้าที่อาจถูกตีกลับ
อย่างไรก็ตามมันก็ถือเป็นตัวเลขที่ช่วยชี้วัดความต้องการของผู้บริโภคในวันคนโสดหรือที่รู้จักกันดีในนาม 11.11 ซึ่งถือเป็นเทศกาลช็อปปิ้งสำคัญของจีนที่สามารถแซงหน้าเทศกาล Black Friday และ Cyber Monday ในสหรัฐฯในแง่ของยอดขายไปแล้ว
ย้อนกลับไปในปี 2020 ปริมาณการทำธุรกรรมโดยรวมของ JD อยู่ที่ 271.5 พันล้าน ในขณะที่ยังมีเวลาเหลืออีกหลายชม.สำหรับเทศกาล 11.11 ในปีนี้ โดยช่วงเวลาลดราคาขายสินค้าของ JD จะสิ้นสุดลงตอนเที่ยงคืนวันนี้ ซึ่งน่าจะมียอดการทำธุรกรรมสูงขึ้นอีก
Alibaba คู่แข่งสำคัญของ JD ที่ยังไม่เปิดเผยข้อมูลในปีนี้เป็นผู้ริเริ่มเทศกาลวันคนโสดครั้งแรกเมื่อปี 2009 แต่ในปัจจุบันบรรดาร้านค้าปลีกทั่วทั้งประเทศต่างพากันเข้าร่วมในอีเวนต์นี้ โดยเน้นการลดราคาแบบจัดเต็มเพื่อดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้ามาซื้อสินค้า
เดิมทีจากเคยเป็นอีเวนต์ที่นำเสนอ Flash Sale แบบ 24 ชม. แต่เทศกาล 11.11 กลับค่อย ๆ ขยายระยะเวลาเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปีนี้ JD มีช่วง Pre-Sale ระหว่างวันที่ 20-31 ต.ค. ก่อนจะเริ่มต้นการลดราคาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงเที่ยงคืนในวันนี้
ด้วยช่วงเวลาที่ยาวขึ้นก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ยอดการทำธุรกรรมของ JD เติบโตขึ้นในปีนี้ ซึ่งก็เป็นไปตามแนวโน้มที่ CEO ของ JD เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC ไว้ก่อนหน้าวันคนโสดว่า ปริมาณความต้องการของผู้บริโภคมีการขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ
ยังมีสิ่งที่พิเศษเพิ่มเติมในปีนี้จากการที่พวกเขาเปิดรับการชำระค่าสินค้าด้วยเงินหยวนดิจิทัลระหว่างเทศกาลวันคนโสดเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นไฮไลต์สำคัญในการผลักดันจากธนาคารกลางของจีน (PBoC) ที่ต้องการทดสอบการใช้งานในสเกลที่ใหญ่ขึ้น
แม้เงินหยวนดิจิทัลหรือ e-CNY ยังไม่ได้ถูกประกาศใช้อย่างเป็นทางการ แต่ JD ก็เผยว่า มีผู้คนกว่า 100,000 คนที่ได้รับสิทธิ์ในการทดสอบนำเงินหยวนดิจิทัลเข้ามาใช้งานในแอปพลิเคชันของพวกเขาระหว่างช่วงเทศกาลลดราคาครั้งใหญ่
จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ JD วางแผนจะลงทุนเพิ่มเติมในต่างประเทศทั้งในส่วนคลังสินค้า, โลจิสติกส์ และระบบซัพพลายเชน พร้อมตั้งเป้าที่จะขยายตลาดไปทั่วโลกเพื่อรองรับผู้ใช้งานในประเทศต่าง ๆ
แม้ในส่วนของแผนการตลาดในต่างประเทศของ JD จะยังดูเข้มข้นน้อยกว่า Alibaba คู่แข่งสำคัญ แต่การขยายตัวออกสู่ระดับโลกของ 2 กิจการชื่อดังจากจีนยังจะต้องเผชิญกับความท้าทายของผู้ครอบครองตลาดดั้งเดิมอย่าง Amazon
ในขณะเดียวกันอีเวนต์ 11.11 ในปีนี้ยังให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป ภายใต้ความหวาดหวั่นจากการปราบปรามภาคธุรกิจเทคโนโลยีในประเทศ, ความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจ และความพยายามผลักดันนโยบายความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของรัฐบาลจีน
References :
https://www.cnbc.com/2021/11/11/china-digital-currency-jd-begins-accepting-e-cny-on-singles-day.html