เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ออกมายอมรับเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า อัตราเงินเฟ้อกำลังอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายที่วางเอาไว้ แต่เขาก็พิจารณาว่ามันจะเกิดขึ้นเพียงแค่ชั่วคราว ซึ่งก็ส่งผลให้ราคาทองคำขยับตัวขึ้นก่อนจะลดระดับลงในเวลาต่อมา
จากความเห็นของ พาวเวลล์ ทำให้มองได้ว่า Fed ก็รู้สึกเซอร์ไพรส์กับสถานะของอัตราเงินเฟ้อแต่ไม่ต้องการที่จะแสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง อย่างไรก็ตาม พาวเวลล์ ก็ได้กล่าวยอมรับว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะคงอยู่ในระดับสูงต่อไปอีกชั่วระยะเวลาหนึ่ง
มันจึงกลายเป็นคำถามที่ตามมาว่า เหตุใดเราควรต้องเชื่อในสิ่งที่ Fed พยายามบอกว่า อัตราเงินเฟ้อจะทยอยปรับตัวลดลงในภายหลังของปีนี้ หลังจากที่คำทำนายเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อของ Fed เกิดการผิดพลาดมาแล้วในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา
และเมื่อรวมกับการตระหนักของ พาวเวลล์ หลังจากที่เคยเอ่ยว่า เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกสบายใจกับระดับของเงินเฟ้อในปัจจุบัน ก็น่าจะหมายความว่าหากในอนาคตอัตราเงินเฟ้อยังคงไต่ระดับขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ Fed ก็จะยื่นมือเข้ามาสกัดกั้นแนวโน้มดังกล่าว
ปัญหาก็คือไม่มีใครรู้ได้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไร และด้วยเหตุผลทางการเมืองก็มีโอกาสที่มันจะไม่ได้เกิดขึ้นในเร็ววันนี้ และถึงแม้สถานการณ์ในปัจจุบันจะไปไกลเกินกว่าที่ Fed เคยคาดการณ์เอาไว้ แต่ พาวเวลล์ ก็ยังคงลดกระแสของอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากดัชนีราคาที่สูงขึ้น
เขายังคงยืนยันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะเป็นไปเพียงชั่วคราว พร้อมกับกล่าวย้ำไปถึงการดีดตัวขึ้นเงินเฟ้อว่ามีที่มาจากสินค้าบางกลุ่ม เช่น รถยนต์มือสอง และการบริการบางประเภทจากการเข้าสู่ระยะฟื้นฟูหลังผ่านพ้นช่วงภาวะวิกฤต
แต่หากตัดราคาของรถยนต์มือสองที่มีส่วนถึง 1 ใน 3 สำหรับการพุ่งขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนมิ.ย.ออกไป อีก 2 ใน 3 ของตัวเลข CPI ที่ระดับ 5.4% ก็ยังเท่ากับ 3.6% ซึ่งก็สูงกว่าเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อของ Fed อยู่ดี
เมื่อมารวมกับตัวเลขที่ยังขาดหายไปในตลาดแรงงานถึง 7.5 ล้านคนจากเมื่อช่วงก่อนเกิดภาวะวิกฤต การลดระดับของนโยบายสนับสนุนต่าง ๆ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ยังคงห่างไกล และกลายเป็นแรงหนุนให้กับราคาทองคำต่อไป
จากมุมมองของนักลงทุนที่ซื้อคำบรรยายเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อว่าจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว บวกกับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้าที่รุนแรงขึ้นทั่วโลก ก็ได้ส่งผลให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นหลังคำให้การของ Fed ต่อสภาคองเกรส
อย่างไรก็ตามมูลค่าของโลหะมีค่ากลับปรับตัวลดลงในภายหลังของสัปดาห์ก่อน ท่ามกลางข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าที่คาดไว้ จึงดูเหมือนว่ากำลังเกิดความลังเลขึ้นในหมู่นักลงทุนว่าควรจะซื้อทองคำเข้ามาเพิ่มอีกดีหรือไม่
และด้วยเหตุผลดังกล่าวบวกกับโอกาสของการขยับอัตราดอกเบี้ยขึ้น เพื่อตอบสนองกับสถานการณ์ของอัตราเงินเฟ้อภายในอีกไม่ช้าก็เร็วนี้ จึงส่งผลให้แนวโน้มของการถือครองทองคำเกิดการหยุดนิ่ง และกลายเป็นแรงกดดันต่อราคาทองคำในท้ายที่สุด
แต่ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังคงอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นราคาทองคำก็ยังไม่น่าจะทิ้งดิ่งลงในทันที และหากมองไปในระยะยาวเมื่ออัตราเงินเฟ้อเริ่มก่อกวนอัตราการเติบโตให้ช้าลง ก็จะกลายเป็นแรงเสริมให้กับทองคำในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวแต่เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น
References :
https://www.investing.com/analysis/powell-gave-congress-dovish-signs-but-will-it-help-gold-200592476