มูลค่าทองคำดีดตัวกลับสู่ระดับราคา 1,749 ดอลลาร์หรือคิดเป็นอัตราที่ขยับขึ้น 0.24% ในช่วงต้นของวันนี้ หลังอ่อนตัวลงไปจนถึงระดับ 1,726 ดอลลาร์เมื่อวานนี้จากหลายๆ ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
แม้ทางฝั่ง แลร์รี คัดโลว์ ที่ปรึกษาของทำเนียบขาวจะให้ความเห็นว่า ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ไม่ได้มีเป้าหมายที่จะตัดความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีน แต่เหล่าวุฒิสมาชิกของพรรครีพับลิกันกลับเพิ่มอุณหภูมิด้วยการผลักดันให้มีการตรวจสอบต้นตอการระบาดของเชื้อไวรัสในจีน
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงลดลงติดต่อกันเป็นวันที่สาม จนขยับเข้าใกล้กับบริเวณต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 99.44 ณ เวลาเรียบเรียงข้อมูลนี้ ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีก็ลดลง 1.5 bps หรือ 0.70%
ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงยังมีปัจจัยเสริมมากจากรายงานจำนวนที่อยู่อาศัยเริ่มสร้างของสหรัฐฯ ที่มาประจวบกับความคุกรุ่นของสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ หลัง ทรัมป์ ออกมาขู่จะระงับการให้เงินสนับสนุนต่อองค์การอนามัยโลก (WHO) เป็นการถาวร โดยลากเอารัฐบาลปักกิ่งเข้ามารวมอยู่ในเหตุผลอ้างอิงด้วย
นอกจากนี้ความตึงเครียดระหว่างจีนและออสเตรเลียก็มีส่วนผลักดันให้ราคาทองคำสูงขึ้น หลังจีนประกาศตั้งกำแพงภาษีข้าวบาร์เลย์จากออสเตรเลียถึง 80% และอาจรวมถึงไวน์, อาหารทะเล, ข้าวโอ๊ต, ผลไม้ และผลิตภัณฑ์จากนมที่มีสิทธิ์จะพบปัญหาในการนำเข้าไปที่จีนหลังจากนี้
นักลงทุนยังคอยเฝ้าติดตามไปที่ผลบันทึกการประชุมย่อยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในช่วงดึกคืนนี้ ซึ่งจะเป็นตัวแปรเสริมสำหรับทิศทางในระยะสั้นของราคาทองคำ
จากยอดสูงที่ระดับ 1,752 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ก็ได้กลายเป็นแนวต้านที่นักลงทุนต้องจับตามองว่าจะสามารถผ่านขึ้นไปยังจุดพีคล่าสุดที่ 1,765.38 ดอลลาร์ได้หรือไม่ และหากราคาทองคำยังบินสูงได้ไกลกว่านั้น เป้าหมายต่อไปก็คือการขึ้นไปทดสอบสถิติสูงสุดเมื่อปี 2012 ที่ระดับ 1,796 ดอลลาร์
Credit : https://www.fxstreet.com/news/gold-price-analysis-probes-1-750-as-us-dollar-stays-sluggish-202005200113