ราคาทองคำยังคงระดับของความยืดหยุ่นอยู่ได้ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการเผชิญหน้ากับความผันผวนของตลาดในภาพรวม และแนวโน้มที่ค่อนข้างแยกตัวออกจากแรงผลักดันตามปกติอย่างดอลลาร์และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง
แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีและดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (DXY) จะเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบปีไปจนตลอดช่วงสิ้นเดือนม.ค. โลหะมีค่าก็ยังขยับขึ้นไปอยู่เหนือ $1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เช่นเดียวกับราคา Gold Spot ที่คงอยู่ประมาณ $1,800 ในช่วงคืนวันศุกร์
ท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐศาสตร์มหภาคทั้งจากปัญหาในระบบซัพพลายเชน, อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และความเสี่ยงจาก COVID-19 แต่ธนาคาร Bank of America ยังให้ความเห็นว่ากระแสเงินลงทุนบางส่วนที่ไหลเข้าสู่ตลาดทองคำเป็นไปด้วยความยืดหยุ่นสูง
ในขณะที่ธนาคาร UBS ก็ได้กล่าวถึงส่วนผสมของความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับกองทุนเฮดจ์ฟันด์และความเชื่อทั้งในมุมที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะยังรักษาท่าทีแบบตามหลังเงินเฟ้อหรือปรับนโยบายการเงินแบบตึงตัวขึ้น ซึ่งจะทำให้การเติบโตสะดุดลง
จากบันทึกถึงลูกค้าเมื่อวันศุกร์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนของ UBS ได้กล่าวย้ำว่า คุณลักษณะของหลักประกันที่น่าเชื่อถือของทองคำได้กลับมาเปล่งประกายอีกครั้งเมื่อเทียบสินทรัพย์กระจายความเสี่ยงอื่น ๆ อย่าง Bitcoin
เมื่อต้องเผชิญกับการปรับเปลี่ยนจุดยืนเป็นสายเหยี่ยวของ Fed ผู้มีส่วนร่วมในตลาดการเงินได้ปรับมุมมองไปยังการขยับอัตราดอกเบี้ยขึ้นหลายครั้งในปีนี้ และเชื่อว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภท TIPS อายุ 10 ปีจะสร้างความประหลาดใจให้กับใครบางคน
ในแบบจำลองของ UBS ยังบ่งชี้ไปถึงความผันผวนของตลาดที่สูงขึ้นในปีนี้ โดยสังเกตได้จากสัญญาณของ VIX Index หรือที่รู้จักกันในนาม “ดัชนีแห่งความกลัว” ซึ่งถือเป็นเสาหลักสำคัญที่คอยช่วยพยุงราคาให้กับทองคำ
นักกลยุทธ์ของ UBS อธิบายว่าหากใส่ค่าเฉลี่ยของดัชนี VIX ที่ 19.5 ก็น่าจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงราคาทองคำที่ระดับ $1,575 ดังนั้นตามที่ได้ถกเถียงกันมาถึงไตรมาสปัจจุบัน ความต้องการป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตที่เพิ่มขึ้นจะสนับสนุนการคาดการณ์ของพวกเขาที่ราคา $1,800
อย่างไรก็ตาม UBS ยังรักษาระดับความคาดหวังของจังหวะขาลงว่าจะอยู่ที่ $1,650-$1,700 ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยคาดการณ์ไปถึงบรรยากาศของความเสี่ยงที่จะพัฒนาขึ้น จากภัยคุกคามของทั้งโอไมครอนและภาวะเงินเฟ้อที่จะคลี่คลายลงไป
ทางด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัทการลงทุน AJ Bell ได้ให้ความเห็นว่า หากราคาทะยานขึ้นไปไกลกว่าระดับ $1,800 มาก ก็ต้องมาจากการที่ตลาดสูญเสียความศรัทธาบางส่วนในแผนนโยบายการเงินแบบตึงตัวของธนาคารกลาง
ซึ่งจากบันทึกถึงลูกค้าในช่วงสัปดาห์ก่อน ทาง AJ Bell ได้กล่าวถึงโอกาสที่ทองคำจะพุ่งขึ้นไปไกลจากระดับ $1,800 ว่า อาจเป็นไปได้ในกรณีที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างผสมผสานกัน
โดยปัจจัยเหล่านั้นเป็นการรวมตัวกันระหว่างภาระหนี้ทั่วโลก, การขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ถูกพิสูจน์ว่าทำให้เกิดปัญหา และผู้กำหนดนโยบายหันกลับมาลดอัตราดอกเบี้ยและใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีกครั้ง ก่อนที่อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ภายใต้การควบคุม
References :
https://www.cnbc.com/2022/02/07/gold-has-remained-steady-as-stocks-and-bitcoin-have-plunged.html