การทะยานขึ้นของราคาในสหรัฐฯยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องสำหรับเดือนม.ค. โดยดัชนีชี้วัดอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญอีกตัวหนึ่งอย่างดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) แสดงผลลัพธ์ของราคาในเดือนก่อนที่พุ่งขึ้นเกิดความคาดหมายที่วางเอาไว้
ค่าดัชนี PPI ที่ใช้ตรวจวัดค่าใช้จ่ายของบรรดาผู้ผลิตในสหรัฐฯที่ใช้ไปกับสินค้าและบริการของพวกเขาพุ่งสูงขึ้น 9.7% ก่อนปรับฤดูกาลในเดือนม.ค.จากเมื่อ 1 ปีก่อน แม้จะลดลง 0.1 หน่วย % จากผลลัพธ์ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องของเมื่อ 2 เดือนก่อนก็ตาม
จากข้อมูลเฉพาะของเดือนม.ค. ดัชนีราคาที่สูงขึ้นถึง 1% หลังปรับค่าฤดูกาล ก็ทำให้ราคาที่เพิ่มขึ้นของเดือนธ.ค.และความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ที่มองว่าจะมีการขยับตัวขึ้นเพียง 0.5% ดูเล็กลงไปถนัดตา
หากตัดสินค้าในกลุ่มอาหาร, เชื้อเพลิง และบริการด้านการค้าที่มีการสวิงของราคาสูงออกไป ผลลัพธ์ก็ยังคงสูงขึ้น 0.9% และเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ม.ค.ปีก่อน ซึ่งหากคำนวณในแบบปีต่อปีดัชนี PPI พื้นฐานก็จะขยับขึ้น 6.9% โดยลดลงจากตัวเลขของเดือนธ.ค. 0.1 หน่วย %
จากเมื่อสัปดาห์ก่อนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อีกหนึ่งตัวชี้วัดที่สำคัญก็ทะยานขึ้นสูงกว่าความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ และยังถือเป็นการไต่ระดับขึ้นไปสร้างสถิติสูงสุดเกือบจะในรอบ 40 ปี
ที่ผ่านมานักเศรษฐศาสตร์หลายคนได้ตั้งความหวังว่า อัตราเงินเฟ้อที่เริ่มมีผลมาจากวิกฤตของ COVID-19 จะไปถึงจุดพีคในเดือนแรกของปี 2022 แต่ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามันขยับขึ้นมาจนถึงจุดพีคในเดือนม.ค.แล้วหรือยังจะมีอะไรตามหลังขึ้นมาอีก
โดยปกติแล้ว PPI จะเป็นตัวเฝ้าติดตามราคาของสินค้าสำเร็จและบริการที่ขายให้กับผู้บริโภค และยังรวมถึงสินค้า, บริการ, การซ่อมบำรุง และการซ่อมแซมโครงสร้างที่ขายให้กับภาคธุรกิจเพื่อใช้ในการผลิตหรือเอื้ออำนวยต่อสินค้าสำเร็จของพวกเขา
ในเดือนม.ค.ราคามีการขยับตัวขึ้นในทุกภาคส่วน ไล่เรียงตั้งแต่ยานพาหนะ, อุปกรณ์เครื่องใช้, น้ำมันเชื้อเพลิง, เสื้อผ้าและเครื่องประดับ ไปจนถึงบริการขนส่ง และค่าดูแลรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาล
นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคาร BMO ให้ความเห็นว่า ต้นทุนของพลังงานที่พุ่งขึ้นในเดือนก่อนดูท่าจะไม่มีแนวโน้มลดลงในเดือนก.พ. ซึ่งจากเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันของสหรัฐฯก็พุ่งขึ้นจนเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2014 จากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตในยูเครน
ปัญหาภาวะเงินเฟ้อในระดับสูงปัจจุบันถือเป็นหนึ่งความท้าทายที่สำคัญของรัฐบาลวอชิงตัน โดยคณะทำงานของปธน. โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯต่างรับรู้ถึงความยากลำบากของชาวอเมริกันที่มีต่อราคาของสินค้าและบริการที่ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่มีภารกิจหลักในการรักษาเสถียรภาพของราคา ก็พึ่งเปิดเผยออกมาในรายงานเมื่อสัปดาห์ก่อนโดยกล่าวยืนยันถึงภาวะเงินเฟ้อที่กำลังร้อนแรง และการพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน
Fed เริ่มต้นลดระดับโครงการช่วยเหลือเศรษฐกิจตั้งแต่ปีก่อนและมาส่งสัญญาณชัดเจนในเดือนม.ค.ถึงการจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งความคาดหวังของนักลงทุนในปัจจุบันค่อนข้างจะโน้มเอียงไปยังการขยับอัตราขึ้นถึง 0.50%
References :
https://edition.cnn.com/2022/02/15/economy/january-inflation-producer-prices/index.html
