ราคาทองคำช่วงนี้ต้องตามข่าวกันให้ทัน เพราะข่าวที่มานั้นส่งผลต่อตลาดทองคำอย่างมาก เรามาไล่ Time Line จากวันจันทร์ ถึงวันนี้กันหน่อย
ราคาทองคําจะพยายามทรงตัวเหนือ $1,800 หลังจากปรับตัวสูงขึ้นจากวันจันทร์ที่ผ่านมา จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ดอลลาร์ถูกกดดันจากปัจจัยเหล่านี้
1. PMI ภาคการผลิต-บริการของสหรัฐชะลอลง ออกมาแย่เกินคาด กระตุ้นคาดการณ์ว่าเฟดอาจไม่เร่งปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน [กดดันดอล หนุนทองคำ]
2. ในช่วงตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก โดยสินทรัพย์เสี่ยงได้แรงหนุนจาก FDA ของสหรัฐอนุมัติการใช้ วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทคอย่างเต็มรูปแบบ (full approval) [สินทรัพย์เสี่ยงได้แรงหนุน หนุนทอง]
3. ปัจจุบันสหรัฐกําลังเผชิญกับการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลต้าซึ่งอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ[หนุนทองคำ]
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลเชิงบวกต่อราคาทองคํา ตั้งแต่วันจันทร์จนถึงเมื่อวานนี้
ราคาทองคำวันนี้ ทองคำได้รับแรงกดดันหลังชาวอเมริกันแห่ฉีดวัคซีนเพิ่มหลัง FDA สหรัฐ อนุมัติไฟเซอร์เต็มรูปแบบเมื่อวันจันทร์ (23 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น
ทั้งนี้ ปัจจุบันชาวอเมริกันที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบโตสแล้วมีราว 529% แต่หน่วยงาน สาธารณสุขยังไม่สามารถเปลี่ยนใจคนที่ลังเลได้ แต่หลังจาก FDA อนุมัติไฟเซอร์เต็มรูปแบบคาดว่าจะจูงใจให้ชาวอเมริกันฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น
ขณะที่กองทัพสหรัฐรับลูกทันที แถลงว่า จะกําหนดให้บุคลากรในกองทัพฉีดวัคซีน คาดว่าหลังจากนี้ภาคเอกชนและมหาวิทยาลัยจะทําแบบเดียวกัน ทางด้านนิวยอร์กซิตี้จะกําหนดให้บุคลากรด้าน การศึกษาในทุกกรมกองต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส ภายในวันที่ 27 ก.ย. โดยไม่เปิดทางเลือกให้คนที่ไม่ฉีดใช้วิธีตรวจหาเชื้อเป็นประจําแทน
นอกจากนี้ นายแพทย์แอนโทนี เฟาซี แพทย์ใหญ่ประจําทําเนียบขาวสหรัฐ เปิดเผยว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นาและจอห์นสันแขนต์จอห์นสัน น่าจะได้รับ การอนุมัติอย่างเต็มรูปแบบ (full approval) จาก FDA เร็วๆนี้
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคํา
อย่างไรก็ดี ราคาทองคําไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ โดยเผชิญกับแรงขายทํากําไรและแรงขายทางเทคนิค ขณะที่ Goldman Sachs ได้ปรับ “เพิ่ม” โอกาสที่เฟดจะเริ่ม “ประกาศแผนปรับลดวงเงิน OE อย่างเป็นทางการ” ในเดือนพ.ย.นี้จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะมีโอกาส 255% เพิ่มขึ้นเป็นจะมีโอกาส 45% พร้อมปรับลด โอกาสที่เฟดจะ “ประกาศแผนปรับลดวงเงิน QE อย่างเป็นทางการ” ในเดือนธ.ค. ลงจาก 55% เหลือ 35% จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันให้ราคาทองคําร่วงลงปิดตลาดในแดนลบ เมื่อวานนี้ราคาปิดใกล้ระดับต่ําสุดของวันบ่งชี้ว่าแรงขายยังคงแข็งแกร่ง
การวิเคราะห์ด้วยเทคนิคเทรนไลน์ + RSI จากกราฟรายเดย์ เรามาดูว่าทองคำในทางเทคนิคเทรนไนล์ จะไปทางไหนได้บ้าง ราทองคำขึ้นทำไฮเมื่อวานที่บริเวณ $1,809.42 ราคาทองคําไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ โดยเผชิญกับแรงขายทํากําไรและแรงขายทางเทคนิค ชนเส้นเทรนไลน์แนวต้านบริเวณ $1,805 ไต่ขึ้นจากปัจจัยข่าวทำไฮ แต่ก็ไม่สามารถยืนเหนือ $1,805ได้ ปิดแท่งรายเดย์ที่ราคา $1,802 ราคาทองคำไม่สามารถไปต่อได้หลุด $1800 ลงมาอย่างต่อเนื่องในวัน ระหว่างวันราคาทองคำค่อยลงผ่านแนวรับแต่ละจุดลงมาได้จนมาถึงแนวรับบริเวณ $1790 ในมุมมองเทรนไลน์ ยังเหลืออีก 1 แนวรับสำคัญคือบริเวณ $1,787 – $1,784 หากยืนเหนือบริเวณนี้ได้ ราคาทองคำมีโอกาสจะขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน ราคาทองคำไม่ควรหลุด $1,780 (หากราคาหลุดโซน $1,780 ไม่แนะนำให้รีบเข้าซื้อ) เพราะหากหลุดแนวรับนี้ มีแนวรับถัดไป $1765 ในส่วนของ Rsi ราคาได้ยืนเหนือ 50 ขึ้นมาแล้ว แต่มีสัญญาณ bearish divergence เกิดขึ้นใน กราฟราย 4 ชั่วโมงเลย แต่จะยืนกราฟรายเดย์ได้ ต้องดูวันนี้เมื่อปิดแท่งเดย์แล้ว rsi จะเกิด bearish divergence หรือไม่ หากกูประกอบกับเส้นเทรนไลน์ เส้นสีม่วงจะเห็นได้ว่า ราคายังอยู่บนเส้นเทรนไลน์แนวรับได้อยู่ หากยังไม่หลุด ทองคำก็ยังลงต่อไม่ได้ แต่หากมีปัจจัยทำให้ราคาหลุดโซน $1787.47 ลงไม่ได้อย่างเต็มแท่งเท่ากับว่าราคาก็ขึ้นกลับยังไม่ได้เช่นเดียวกัน กลยุทธ์ทางเทคนิคเทรนไลน์ ควรเข้าซื้อ ใกล้แนวรับให้มากที่สุด หรือ ใกล้เส้นเทรนไลน์แนวรับ ส่วนการเข้าขาย ควรเข้าขาย ใกล้บริเวณแนวต้านมากที่สุด เพื่อที่จะได้ลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด และอย่าลืมมองหาจุด Stop loss ด้วยนะคะ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการคาดการณ์เป็นเพียงมุมมองส่วนตัวเท่านั้น ไม่ใช่ข้อสรุปหรือการชี้นำตลาด และอาจเกิดข้อผิดพลาดได้เสมอ ดังนั้นโปรดใช้วิจารณาญของท่านในการตีความและวิเคราะห์
กราฟเมื่อวาน >> ดอลลาร์เจอแรงขายทำกำไร ส่งผลทองคำทะยาน ยืน $1,800 อีกครั้ง ทองคำจะไปต่อไหม?
References :
1. https://th.investing.com/news/
2. https://th.investing.com/analysis/
