นับตั้งแต่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดไปทั้งโลก การกลับเข้าสู่โหมด reset จนทำให้ระบบขนส่งสาธารณะต้องหยุดชะงัก ธุรกิจการบินที่เคยขวักไขว่เมื่อรัฐบาลหลายประเทศสั่งปิดเมือง มลภาวะทางอากาศที่กำลังวิกฤตก็กลับฟื้นคืนซึ่งหากเป็นช่วงเวลาปกติแล้วคาดกันว่าอาจต้องใช้เวลามากกว่า 10 ปีในการทำให้มลพิษจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงลดลงได้ขนาดนี้
แม้กระทั่งแม่น้ำคงคาในประเทศอินเดียที่เคยขุ่นคลั่ก เมื่อรัฐบาลสั่งให้ประชาชนหยุดอยู่แต่ในบ้านงดออกมาทำกิจกรรมต่างๆในแม่น้ำ ผลปรากฏว่าแม่น้ำคงคาฟื้นคืนความใสอย่างที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อนในรอบศตวรรษ
หลายวันมานี้ผมลองเข้าไปศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ราคาทองคำ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนหลายท่านฟันธงว่าในภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19นี้ ยิ่งทำให้ทองคำน่าสนใจมากขึ้นจาก 3 ปัจจัยหลักๆ
1.เศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตช้าลง
2.อัตราดอกเบี้ยต่ำจนติดลบ
3.มีแรงขายหนักๆออกจากสินทรัพย์อื่นๆแล้วหันมาพักเงินที่ทองคำ
ซึ่งผู้ที่จะซื้อทองคำเก็บไว้เก็งกำไรก็สามารถทำได้เนื่องจากราคาทองคำปัจจุบันมีแนวโน้มสูงขึ้น ล่าสุดแตะที่ 2.7หมื่นบาทแล้ว ในขณะที่ผู้ที่ต้องการจะเทขายก็ได้กำไรเช่นกัน จากราคาทองคำที่สูงขึ้นเรื้อยๆตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19
อย่างที่ทุกท่านทราบว่าเมื่ออัตราดอกเบี้ยในตอนนี้ติดลบเป็นระยะเวลานานๆ ธนาคารกลางหลายประเทศก็กำลังผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อ กลับมาระดับเป้าหมายให้ได้ ทองคำจะเป็นทางเลือกในการลงทุน และจะถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ตราบใดที่อัตราดอกเบี้ยยังต่ำแบบนี้
กูรูสรุปว่าทองคำจึงกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ผู้จัดการกองทุนต้องมีไว้ติดพอร์ตในช่วงเวลาผันผวนเช่นนี้
ประเด็นการลงทุนในราคาทองคำผมต้องบอกตรงนี้เลยครับว่า ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นทำความรู้จัก และอาจต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะรู้ในบางแง่มุม เพราะฉะนั้นการพูดคุยของผมคงยังไม่ลงในรายละเอียดเนื่องจากหลายท่านในที่นี้ต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญอยู่แล้วย่อมเข้าใจกระแสการลงทุนดีกว่าผมแน่นอน
ผมจึงอยากนำสิ่งที่ได้อ่านเจอมาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งแน่นอนครับว่าเป็นเรื่องที่ผมเพิ่งรู้
ปัจจัยที่กำลังถูกเฝ้าระวังในแวดวงทองคำขณะนี้ไม่ใช่นโยบายจากรัฐบาลต่างๆในการพยุงเศรษฐกิจ แต่กลับอยู่ที่โควิด-19 ซึ่งส่งผลกับสุขภาพของคนไปทั่วทุกทวีป
AngloGold บริษัทเหมืองแร่ระดับโลกมองว่าหากสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาที่น่ากังวลที่สุดคือคนงานเหมืองจะติดเชื้อไวรัส หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอาจต้องมีการปิดเหมือง ผลกระทบที่จะตามมาคือ supply chain ทองคำ
- ซึ่งตัวอย่างก็เคยมีมาแล้ว เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาประธานาธิบดี Cyril Ramaphosa ของแอฟริกาใต้ สั่งปิดเหมืองโลหะมีค่า เป็นเวลา 21 วัน เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของไวรัส ผลกระทบที่ตามมาทันทีหลังการปิดเหมืองคือ ทองคำ แพลตินัม และพาลาเดียม
เพราะฉะนั้นสิ่งที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงขณะที่ราคาทองในตลาดกำลังพุ่งทะยานสูงเป็นประวัติการณ์คือ คนงานเหมืองทองแร่ทองคำสำคัญๆระดับโลกจะรอดจาดจากไวรัสโควิด-19 ด้วยหรือไม่
และหากคนงานเหมืองทองคำติดไวรัสโควิด-19 ขึ้นมาจนทำให้ต้องปิดเหมืองขึ้นมาอีกสักแห่ง ราคาทองคำก็จะยิ่งสูงขึ้นเป็นทวีคูณ
กรณีที่ทองคำมีราคาพุ่งสูง 2.7 หมื่นบาท และมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะสูงกว่านี้ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนจำนวนไม่น้อยทยอยนำทองคำออกมาขายเพื่อถือเงินสด
และหากมีการนำทองคำออกมาขายกันมากขึ้นธุรกิจที่อาจจะได้รับผลกระทบโดยตรงก็น่าจะเป็นผู้ประกอบการร้านทอง
ตั้งแต่เข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมโลกใบนี้ถูกมนุษย์รุกรานทำลายธรรมชาติจนหลายคนไม่ได้รู้สึกว่าวิถีชีวิตประจำวันหลายๆสิ่งมีผลกระทบอย่างไรกับแม่น้ำ ภูเขา ทะเล หรืออากาศที่เราหายใจเข้าไป
ที่เห็นภาพชัดเจนคือชาวอินเดียซึ่งมีวัฒนธรรมชำระล้างในแม่น้ำคงคา รวมทั้งมีการเผาศพริมฝั่งแม่น้ำมากกว่า 3.5 หมื่นศพต่อปี จนมีคำกล่าวว่าความสกปรกในแม่น้ำสายนี้เชื้อโรคยังต้องหนี แต่เมื่อทุกอย่างหยุดชะงักเพราะโควิด–19 แม่น้ำคงคาก็กลับมาใสสะอาดอีกครั้ง นี่น่าจะเป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนพฤติกรรมของมนุษย์หลายๆอย่างที่ผ่านมาได้ชัดเจนที่สุด
เปรียบกับราคาทองคำที่ผันผวนจากปัจจัยต่างๆที่แม้ว่าความผันผวนนั้นจะเกิดจากนโยบายหรือมาตรการที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำอย่างไร สุดท้ายแล้วหากคนงานเหมืองทองคำซึ่งอาจไม่รู้เรื่องตลาดทองคำไปมากกว่าการแยกแร่ออกจากดิน ก็ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญอีกปัจจัยหนึ่งในกระบวนการผลิต
ในความผันผวนของราคาทองคำ ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อโรคระบาดจะได้แพร่กระจายไปทั่วโลก โดยนักลงทุนอาจจะเก็งราคาทองคำในตลาดผ่านอินเตอร์เนต แต่สุดท้ายแล้วคนงานเหมืองกลับมีบทบาทสำคัญต่อวงจรการค้าขายทองคำไม่น้อยกว่าปัจจัยอื่นๆเลย
คนเล็กๆขยับโลกได้อย่างน่าสนใจจริงๆครับ