จีนกำลังยกระดับความพยายามอย่างเต็มที่ในการผลักดันเงินหยวนดิจิทัลให้มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายในหมู่ประชาชน หลังจาก 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศอย่าง Alibaba และ Tencent ต่างขยับเข้ามามีส่วนร่วม
ธนาคารกลางของจีน (PBoC) ได้ทำการพัฒนาสกุลเงินของตนเองในรูปแบบดิจิทัลมาตั้งแต่ปี 2014 จนกระทั่งการเปิดตัวภายใต้ชื่อ e-CNY ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้ทดแทนธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ที่กำลังหมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจขณะนี้
หยวนดิจิทัลจะอยู่ในรูปแบบของสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ซึ่งเป็นรูปแบบที่ธนาคารกลางอื่น ๆ ทั่วโลกกำลังพยายามพัฒนาตามหลังจีน และไม่ได้อยู่ในรูปแบบของคริปโทเคอร์เรนซีอย่าง Bitcoin แต่อย่างใด
จนถึงขณะนี้ PBoC ได้ผ่านการทำโครงการนำร่องของ e-CNY ด้วยระบบสุ่มแบบลอตเตอรี่ โดยมีเงินหยวนดิจิทัลเป็นจำนวนกว่าสิบล้านหยวนที่ถูกส่งต่อไปถึงมือของประชาชนแล้วในหลาย ๆ เมืองของประเทศ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา PBoC ได้เปิดตัวแอปพลิเคชันใน 10 พื้นที่ที่รวมถึงเมืองใหญ่อย่างปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้เพื่อลงทะเบียนการใช้เงินหยวนดิจิทัล ท่ามกลางการครองตลาดระบบการชำระเงินโดย 2 กิจการผู้นำอย่าง WeChat Pay ของ Tencent และ Alipay ของ Ant Group
แต่สิ่งที่น่าจับตามองก็คือคำประกาศให้การสนับสนุนเงินหยวนดิจิทัลของแอป WeChat เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย WeChat มีบัญชีผู้ใช้งานอยู่กว่า 1 พันล้านบัญชีในจีน เช่นเดียวกับ Alipay ที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ e-CNY เช่นกัน
ดังนั้นสิ่งที่ยังคงท้าทายสำหรับ PBoC ก็คือการทำให้ผู้คนดาวน์โหลดแอปเงินหยวนดิจิทัลใหม่ของพวกเขา และสลับการใช้งานมาจาก WeChat Pay และ Alipay แม้การรวมตัวเข้ากับ WeChat จะเป็นปัจจัยสำคัญที่น่าจะช่วยแผ่ขยายฐานการใช้งานของ e-CNY ได้เป็นอย่างดี
แต่ในขณะที่ยังไม่มีข้อมูลทางด้านเทคนิคและปัจจัยอื่น ๆ ที่อยู่เบื้องหลังสกุลเงินดิจิทัลตัวนี้ จึงทำให้มีคำถามมากมายตามมา เช่น ผู้คนจะยังคงใช้งาน e-CNY อย่างสม่ำเสมอท่ามกลางความพยายามผลักดันของธนาคารกลางหรือไม่
ยกตัวอย่างไปถึง WeChat Pay หรือ Alipay ผู้ใช้งานเพียงแค่เชื่อมโยงบัญชีธนาคารของพวกเขาเข้ากับแอป แต่กับการใช้งานเงินหยวนดิจิทัล ผู้ใช้งานจะต้องลงทะเบียนในแอปต่างหากและเชื่อมโยงเข้ากับ WeChat Pay หรือ Alipay หรือใช้งานผ่านแอปของ PBoC โดยตรง
นักวิเคราะห์จากบริษัทที่ปรึกษา Trivium China ให้ความเห็นว่า ยังมองไม่เห็นแรงจูงใจที่เข้มแข็งพอสำหรับการทำให้ผู้คนสับเปลี่ยนการใช้งานมาจากระบบเดิม เช่นเดียวกับการดึงดูดผู้คนให้ใช้งานต่อไปหลังเงินหยวนดิจิทัลฟรีที่ได้รับผ่านระบบลอตเตอรี่ถูกใช้ไปจนหมดแล้ว
จากคำแถลงการณ์ของ PBoC ก่อนหน้านี้ยังเคยกล่าวถึงการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งในปี 2022 ว่าจะเป็นเวทีเปิดตัวสำหรับการใช้งาน e-CNY สำหรับชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้ามา
แต่ในขณะที่จีนยังคงยึดมั่นอยู่กับนโยบายปลอด COVID-19 ซึ่งหมายถึงการใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อขจัดเชื้อไวรัสให้หมดไปจากประเทศ ก็น่าจะส่งผลให้มีชาวต่างชาติเป็นจำนวนน้อยนิดที่จะเดินทางมาเข้าร่วมมหกรรมกีฬาในปีนี้
References :