ข่าวตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯล่าสุดที่พุ่งขึ้นจนกลายเป็นสถิติใหม่ในรอบ 4 ทศวรรษ ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ไปทั่วทั้งตลาดหุ้นถึงแนวทางการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่อัตรา 0.50% ในเดือนมี.ค.นี้
แม้จะมีความกังวลจากแรงกดดันของราคาเพิ่มสูงขึ้น แต่ตลาดทองคำก็ดูเหมือนจะไม่ได้ตื่นตัวไปตามกับข่าวนี้ซักเท่าไร หลังราคาขยับขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญก่อนจะปรับตัวดิ่งลงมาอยู่ต่ำกว่าระดับ $1,825 ในช่วงก่อนเปิดตลาดยุโรป
ด้วยอัตราเงินเฟ้อต่อปีของเดือนม.ค.ที่ 7.5% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ 6.0% ได้กลายเป็นสถิติของการขยายตัวขึ้นเร็วสุดนับตั้งแต่ปี 1982 และจากราคาที่เพิ่มขึ้นในทุกภาคส่วนโดยรวม ก็อาจส่งผลให้ Fed หันมาใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวมากขึ้น
หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของบริษัทเงินทุน TD Securities กล่าวว่า แม้ตลาดหุ้นจะเทน้ำหนักลงไปเต็มที่ แต่เขาไม่แน่ใจว่าตลาดทองคำจะซื้อไอเดียในการขยับตัวครั้งใหญ่ของ Fed ด้วยหรือไม่
นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคาร CIBC กล่าวว่า นี่เป็นสิ่งยืนยันเรื่องที่ Fed ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับปัญหาเงินเฟ้อ ด้วยแรงกดดันจากค่าแรงที่สูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มที่อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับสูงกว่า 7% ในเดือนถัดไป
หลังการเปิดเผยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเมื่อวานนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรและดอลลาร์ต่างขยับตัวขึ้นจากความคาดหวังของการปรับดอกเบี้ยที่ 0.50% โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีกลับมามีตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 2%
ในขณะที่ทองคำมีการย่อตัวลงไปก่อนจะดีดตัวขึ้นโดยมุ่งหน้าไปยังระดับราคา $1,850 ก่อนจะดิ่งลงมาเรื่อย ๆ และมุ่งหน้าไปทดสอบแนวรับแถวบริเวณ $1,820 ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์จาก TD Securities มองว่ามันเป็นสัญญาณของความไม่แน่ใจในตลาดทองคำ
เขากล่าวต่อไปว่า เรากำลังอยู่บนจุดที่นักลงทุน 60% มองไปถึงโอกาสในการปรับดอกเบี้ยขึ้น 0.50% ในเดือนมี.ค. อย่างไรก็ตามจากผลประเมินของ FedWatch Tool โดย CME Group มองไปถึงโอกาส 98.6% ของการขยับตัวที่ 0.50% ภายในเดือนหน้า
นอกเหนือจากความคาดหมายของการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น ตลาดทองคำยังกำลังได้รับผลประโยชน์จากแนวทางป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ โดยมีโอกาสที่ธนาคารกลางจะซื้อทองคำเพิ่มขึ้นจากพื้นฐานของอัตราเงินเฟ้อที่จะคงอยู่ในระดับสูงอีกเป็นเวลานาน
นักวางกลยุทธ์จากบริษัท DailyFX กล่าวว่า ผู้คนที่คิดว่าอัตราเงินเฟ้อจะทะยานขึ้นไปจนหลุดวงโคจรก็จะมองหาทองคำในฐานะตัวลดความเสี่ยง แต่ในขณะเดียวกันการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นก็จะส่งผลในทางลบต่อทองคำ มันจึงเป็นเหมือนสถานการณ์ที่ยื้อกันไปมา
ในขณะที่นักวิเคราะห์จากโบรคเกอร์ OANDA ก็ได้ให้ความเห็นว่า ช่วงราคาระหว่าง $1,800-$1,850 น่าจะเป็นผลลัพธ์ที่เป็นไปได้มากที่สุด จนกว่าตลาดจะแน่ใจได้มากขึ้นว่า Fed จะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินให้รัดกุมขึ้นขนาดไหน
เขายังกล่าวต่อไปว่า จากภาวะเงินเฟ้อที่แผ่ขยายออกไปทั่วทุกหมวดหมู่ ทองคำก็อาจกำลังเริ่มแสดงบทบาทการเป็นตัวลดความเสี่ยงของอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากสถานการณ์ความเคลื่อนไหวในตลาดที่ราบเรียบมีแนวโน้มจะเป็นตัวจำกัดการไต่ระดับขึ้นของดอลลาร์
References :
