มีโมเมนต์หนึ่งในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิและต้นฤดูร้อนที่สายการบินในสหรัฐฯมองเห็นโอกาสการฟื้นตัวของเที่ยวบินในประเทศกลับไปสู่ระดับเดียวกับเมื่อปี 2019 ภายในสิ้นปีนี้ และการขยับตัวขึ้นอย่างชัดเจนสำหรับการเดินทางเพื่อธุรกิจและไปยังต่างประเทศ
อย่างไรก็ตามเมื่อ COVID-19 สายพันธุ์เดลต้าระบาดขึ้น ภาคส่วนการต้อนรับที่เคยขยับขึ้นไปสู่จุดพีคระหว่างช่วงภาวะวิกฤตในหลาย ๆ ธุรกิจและโมเมนต์แห่งความคาดหวังดังกล่าวก็เริ่มมลายหายไป
แม้สายพันธุ์เดลต้าจะส่งผลกระทบที่ไม่คงที่กับหลาย ๆ พื้นที่ แต่มันก็นำมาซึ่งความไม่แน่นอนที่อาจกลับมุมมองของการเดินทางเพื่อธุรกิจและการเดินทางระหว่างประเทศ รวมถึงการเติบโตของเที่ยวบินในประเทศที่อาจหยุดชะงักลงเช่นกัน
โดยหลังจากผ่านพ้นช่วงฤดูร้อนที่ค่อนข้างคึกคักไป ผู้คนกว่า 2 ล้านคนต่อวันที่เคยผ่านจุดตรวจของหน่วยงานด้านความปลอดภัยในการเดินทางของประเทศ (TSA) ระหว่างเดือนมิ.ย.และก.ค. กลับลดลงต่ำกว่า 2 ล้านคนต่อวันตั้งแต่ในช่วงเดือนก่อน
ยังมีรายงานการยกเลิกเที่ยวบินเพิ่มขึ้นพร้อมกับการจองตั๋วที่ลดลง ซึ่งจากเมื่อต้นเดือนก.ย.สายการบินชั้นนำในสหรัฐฯหลายแห่งได้กล่าวเตือนนักลงทุนถึงผลลัพธ์ที่อาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวังในช่วงไตรมาสที่ 3 โดยกล่าวโทษไปถึงปัญหาเชื้อไวรัสและเฮอริเคนไอดา
ในขณะที่การมาถึงของฤดูกาลเปิดเทอมที่มักมาพร้อมกับความต้องการเดินทางเพื่อการพักผ่อนที่ลดลง โดยปกติก็จะมีความคาดหวังถึงการชดเชยบางส่วนจากการเดินทางเพื่อธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งก็ดูไม่มีวี่แววจะเกิดขึ้นในปีนี้
ส่วนมุมมองสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศดูจะซบเซายิ่งกว่า โดยมีสาเหตุหลักมาจากระเบียบข้อห้ามการเดินทางฉบับใหม่ในยุโรป ซึ่งจากผลการประเมินของสำนักข่าว CNN พบว่า การฟื้นตัวจนถึงก.ย.ปีนี้ยังคงเทียบเท่าแค่ระดับ 44% จากเมื่อปี 2019
นอกจากนี้ในกลุ่มย่อยที่เคยมีความเข้มแข็งอย่างทริปไปยังเมืองแคนคูนหรือแถบทะเลแคริบเบียนก็ยังได้รับความเสียหายอย่างหนักจากพายุเฮอริเคน ในขณะที่ฤดูของพายุก็ไม่เคยปรากฏในช่วงไฮซีซั่นมาก่อนซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของสภาพอากาศที่น่าเป็นห่วงยิ่งขึ้นไปอีก
และจากปัญหาการระบาดของ COVID-19 ที่ยังคงอยู่ จึงเป็นเรื่องยากที่จะคาดหวังการยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางจนกว่าสถานการณ์จะดูดีขึ้น โดยล่าสุดรัฐบาลวอชิงตันก็ได้กล่าวถึงโอกาสผ่อนผันมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศที่น่าจะต้องรอไปจนถึงเดือนพ.ย.
สุดท้ายการเดินทางเพื่อธุรกิจก็ดูจะเป็นจุดที่น่าผิดหวังที่สุดในความคาดหวังของการฟื้นตัวสำหรับกิจการที่เกี่ยวข้องทั้งในสหรัฐฯและทั่วโลก แม้แต่ในรัฐที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงและมีการควบคุมเชื้อไวรัสได้ค่อนข้างดีก็ยังเลื่อนกำหนดการเปิดออฟฟิศออกไป
ก่อนหน้าการระบาดของสายพันธุ์เดลต้ายังมีมุมมองในด้านบวก โดยยอดขายตั๋วของการเดินทางเพื่อธุรกิจขยับขึ้นไปถึง 49% เมื่อเทียบกับระดับในปี 2019 ณ ช่วงก่อนกลางเดือนก.ค. ซึ่งเป็นอัตราที่สูงขึ้น 17% จากเดือนมี.ค.ที่เริ่มมีสัญญาณของการฟื้นตัว
แต่หลังจากเวลาผ่านพ้นไปราว 2 เดือนกิจการหลายแห่งเริ่มหันกลับมาใช้การประชุมทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แทนจากความกังวลของสายพันธุ์เดลต้า และทำให้ยอดขายตั๋วลดลงมาเหลือแค่ 38% ของระดับในปี 2019 หลังผ่านพ้นช่วงกลางเดือนก.ย.ที่ผ่านมา
References :