เมื่อวานนี้คณะรมต.ของประเทศจากองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออกและกลุ่มชาติพันธมิตร (OPEC+) ได้ร่วมบรรลุข้อตกลงการขยายกำลังการผลิตนับจากเดือนส.ค. เพื่อยับยั้งการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
หลังช่วงปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้น 43% นับจากต้นปี 2021 และคิดเป็นอัตราที่สูงขึ้น 60% ในแบบปีต่อปี จนทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าราคาของมันอาจขยับขึ้นไปแตะ $80 ต่อบาร์เรลภายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
สมาชิกทั้งหมดของ OPEC+ ต่างเห็นพ้องต้องกันในดีลฉบับใหม่ของการจัดสรรกำลังการผลิตไปจนถึงเดือนพ.ค.ปี 2022 หลังซาอุดิอาระเบียและอีกหลาย ๆ ประเทศยอมรับข้อเรียกร้องจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่เคยแสดงท่าทีขัดแย้งมาก่อนหน้านี้
ซูฮาอิล อัล-มาซโรอี รมว.พลังงานของ UAE ออกมาเปิดเผยต่อสื่อสาธารณะภายหลังการประชุมว่า พวกเขารู้สึกแฮปปี้กับข้อตกลงที่เกิดขึ้น ในขณะที่เจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รมว.พลังงานของซาอุฯปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดถึงแนวทางในการประนีประนอมกัน
OPEC+ ตัดสินใจลดกำลังการผลิตลง 10 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีก่อน จากปริมาณความต้องการและราคาของน้ำมันที่ลดลง ก่อนที่จะเริ่มขยายกำลังการผลิตกลับคืนมาบางส่วน จนเหลือปริมาณที่ปรับลดลงอยู่ประมาณ 5.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในขณะนี้
นับจากเดือนส.ค.ไปจนถึงธ.ค.ปีนี้ ทางองค์การจะเพิ่มกำลังผลิตขึ้นอีก 0.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในแต่ละเดือน ซึ่งทาง OPEC วางเป้าหมายที่จะยกเลิกแผนปรับลดกำลังการผลิตลงทั้งหมดในเดือนก.ย.ปีหน้า
พวกเขายังเห็นด้วยในการขยายขอบเขตข้อตกลงโดยรวมที่มีอยู่ไปจนถึงสิ้นปี 2022 จากกำหนดการเดิมที่วางไว้ในเดือนเม.ย.ปี 2022 เพื่อเปิดช่องทางขยับขยายในกรณีที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก เกิดการหยุดนิ่งจากปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่
ที่ผ่านมาแม้ทั้งซาอุฯและ UAE ต่างเห็นด้วยกับการสนับสนุนการเพิ่มกำลังการผลิต แต่ UAE กลับมีมุมมองที่คัดค้านกับซาอุฯ ในการขยายขอบเขตของข้อตกลงไปจนถึงสิ้นปี 2022 โดยไม่มีการปรับปรุงโควตาการผลิต
เพื่อการก้าวข้ามผ่านข้อขัดแย้งที่ทำให้การประชุมของ OPEC+ ต้องเลื่อนออกไปเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทางองค์การได้ยอมขยายโควตาให้กับหลาย ๆ ประเทศได้แก่ UAE, ซาอุฯ, รัสเซีย, คูเวต และอิรัก โดยจะเริ่มต้นในเดือนพ.ค.ปี 2022
นับจากพ.ค.ปีหน้า UAE จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 3.5 ล้านบาร์เรลต่อวันจากฐานตัวเลขเดิม 3.168 ล้านบาร์เรล ในขณะที่ซาอุฯและรัสเซียจะมีโควตาเพิ่มขึ้นเป็น 11.5 ล้านบาร์เรลต่อวันจากฐานการผลิตในปัจจุบันที่ 11 ล้านบาร์เรล
เจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมานยังให้ความเห็นอีกว่า OPEC+ ควรมีการปรับนโยบายอีกครั้ง หากอิหร่านสามารถบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน (JCPOA) ร่วมกับประเทศมหาอำนาจทั่วโลกและกลับคืนสู่ตลาดน้ำมันอีกครั้ง
มีการประเมินกันว่า อิหร่านมีขีดความสามารถในการเพิ่มกำลังจัดหาน้ำมันทั่วโลกประมาณ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในกรณีที่ดีล JCPOA ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และมาตรการคว่ำบาตรที่มีต่อรัฐบาลเตหะรานถูกยกเลิกไป
References :
https://www.reuters.com/business/energy/opec-meets-agree-oil-supply-boost-prices-rise-2021-07-18/