Search

ราคาทองคำวันนี้ ตามประกาศสมาคมค้าทองคำ

ประจำวันที่ 00 x.x. 00
ครั้งที่ 0

ราคาทองคำแท่ง 96.5%

ราคาเปิดราคาล่าสุดเปลี่ยนแปลง
00,00000,000
0
(0)
หน่วย THB บาทอัปเดตล่าสุด 00 x.x. 00 เวลา 00:00 น.

ทองรูปพรรณ 96.5%

ราคาเปิดราคาล่าสุดเปลี่ยนแปลง
00,00000,000
0
(0)
หน่วย THB บาทอัปเดตล่าสุด 00 x.x. 00 เวลา 00:00 น.
ดูราคาทองเพิ่มเติม

สิ่งที่คุณอาจสนใจ

[widget_lastupdate_spdr]

โบรกเกอร์ที่แนะนำ

Recommend Broker

ราคาทองคำร่วงลงต่อเนื่อง หลังจากราคาทองคำไม่สามารถผ่าน $1,800 ไปได้

ราคาทองคำร่วงลงต่อเนื่อง หลังเกิดการเทขายอย่างหนักในช่วงก่อนหน้าในสหรัฐฯ บอนด์ยีลด์พุ่งต่อยืน 1.6% + ดอลลาร์ ยืน 94 ซึ่งจำกัดการขาดทุนของทองคำ  แม้ว่านักลงทุนจะเดิมพันว่าอัตราเงินเฟ้ออาจหมายถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดจากธนาคารกลางสหรัฐ และธนาคารกลางอื่น ๆ แม้จะเข้มงวดกับนโยบายไม่เท่า แต่ก็ยังรัดกุม  อย่างไรก็ตาม นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ธนาคารกลางกำลังเตรียมการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น

ภาพรวมตลาดทองคำ

ดูเหมือนว่าทองคำจะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์เพียงตัวเดียวที่ไม่เข้าร่วมปาร์ตี้ขาขึ้นกับเพื่อนๆ ในช่วงที่น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ บิทคอยน์พากันปรับตัวขึ้น บิทคอยน์ทำได้เพียงวิ่งขึ้นไปแตะ $1,800 ก่อนที่จะร่วงกลับลงมาวิ่งอยู่ที่ $1,750 โดยประมาณ สถานการณ์ของตลาดทองคำถูกซ้ำเติมด้วยรายงานตัวเลขค้าปลีกของสหรัฐอเมริกาเมื่อวันศุกร์ ที่ปรับตัวขึ้น 0.7% มากกว่าตัวเลขคาดการณ์ -0.2%

ภาพรวมตลอดทั้งสัปดาห์ที่แล้วกลายเป็นว่าราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาได้เพียง 0.6% เท่านั้น

เอ็ด โมญ่า นักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ OANDA วิเคราะห์ว่า

“เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ราคาทองคำพึ่งจะสามารถขยับขึ้นจนเกือบแตะ $1,802 ข้ามแนวต้าน $1,800 ได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าความฝันที่นักลงทุนทองคำจะได้เห็น $1,900 หรือ $2,000 กำลังจะกลายเป็นภาพลวงตา ยิ่งราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือ $1,800 ได้ยิ่งทำให้นักลงทุนเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย และหันไปสนใจสินค้าโภคภัณฑ์ตัวอื่น ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 นักลงทุนจะให้ความสนใจกับรายงานผลประกอบการมากกว่าที่จะสนใจราคาทองคำที่เอาแต่วิ่งอยู่ในกรอบราคาเดิมๆ”

เอ็ด โมญ่า ยังกล่าวอีกว่า “นักลงทุนผู้ศรัทธาในทองคำทำได้เพียงอดทนอย่างเดียว เพราะทองคำคงจะวิ่งในลักษณะเช่นนี้ไปจนถึงกว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะจบลง ตอนนั้นดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อ และถึงจะเป็นช่วงเวลาที่เฉิดฉายของราคาทองคำ”

ราคาทองคําได้รับแรงกดดันจากปัจจัยต่างๆ ได้แก่

(1.) การเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนก.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าอาจสติลง 0.2% ซึ่งปัจจัยดังกล่าวหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.574% จนส่งผลกดดันราคาทองคําในฐานะ สินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย

(2.) ราคาทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยังคงได้รับแรงกดดันเพิ่มจากการทะยานขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้น นิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันศุกร์ และปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์นับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากการที่บริษัทโกลด์แมน แซคส์เปิดเผยผล ประกอบการไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่ง รวมถึงตัวเลขยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนก.ย.

(3.) Bitcoin พุ่งขึ้นทะลุขึ้นมาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 61,000 ดอลลาร์จากการคาดการณ์ว่า คณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) จะให้การอนุมัติจัดตั้งกองทุน ETF บิตคอยน์เพื่อทําการซื้อขายในตลาดล่วงหน้า สถานการณ์ดังกล่าวนั่นทอนเม็ดเงินเก็งกําไร ขอกจากตลาดทองคํา และ

(4.) กองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -2.62 ตัน สู่ระดับ 980.10 ต้น ทําให้ในปี 2021 กองทุน SPDR ถือครองทองลดลงแล้ว – 190.64 ตัน สะท้อนกระแสเงินทุนที่ ไหลออกจาก ETF ทองคํา
ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดกดดันให้ราคาทองคําดิ่งลงหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันบริเวณ 1,776 ดอลลาร์ต่อออนซ์จนกระตุ้นแรงขายตามทางเทคนิคเพิ่มเติม นั่นทําให้ราคา ทองร่วงลงต่อจนทดสอบระดับต่ําสุดบริเวณ 1,764.88 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ

มุมมองทองคำด้วยเทคนิคเทรนไลน์ จากกราฟราย H4 + RSI
ราคาทองคำหลังทดสอบ $1,800 ไม่สามารถยืนได้เกิดการเทขายอย่างหนักอย่างต่อเนื่อง หากราคาทองหลุดแนวรับบริเวณ $1,765 พร้อมหลุดเส้นกรอบ Channel ราคาจะเสียทรงขาขึ้น หากราคาหลุดลงต่อ จะมีแนวรับบริเวณ โซน $1,757 – $1,745  หากไม่หลุดโซนบริเวณนี้ได้ ราคาอาจเข้าสู่การ Sideway ในกรอบราคา $1,745 – $1,765  แต่หากราคาหลุด $1,745 – $1,742 ไม่แนะนำเข้าซื้อในทันที ให้ดูท่าทีก่อน เพราะราคาอาจปรับฐานลงลึกได้  แต่หากราคาไม่หลุด  $1,760 อาจมีแรงซื้อกลับขึ้นมาได้โดยมีแนวต้าน $1,770 – $1,780 

ส่วน RSI ในการใช้ประกอบกับเทรนไลน์  สัญญาณ RSI  มีสัญญาณ Bullish Divergence RSI (ณ.เวลาในรูป)

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการคาดการณ์เป็นเพียงมุมมองส่วนตัวเท่านั้น ไม่ใช่ข้อสรุปหรือการชี้นำตลาด และอาจเกิดข้อผิดพลาดได้เสมอ ดังนั้นโปรดใช้วิจารณาญของท่านในการตีความและวิเคราะห์


References :
1. https://th.investing.com/news/
2. https://th.investing.com/analysis/

Relate Post