รู้หรือไม่ – ภาษีผลได้จากทุนที่ ไบเดน ต้องการปรับเปลี่ยนมีอัตราค่าเฉลี่ยอยู่ในกลุ่มประเทศของยุโรปเพียง 19.3%
ปธน. โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯเตรียมนำเสนอแผนการปรับขึ้นภาษีสำหรับกลุ่มชาวอเมริกันที่มีรายได้สูง เช่น การขึ้นภาษีกำไรจากการลงทุน เพื่อนำไปสนับสนุนงบในการดูแลเด็ก, การศึกษา และการประคับประคองตลาดแรงงานของประเทศ
แผนการนี้เป็นส่วนหนึ่งของทำเนียบขาวที่พยายามผลักดันการยกเครื่องระบบภาษีของสหรัฐฯ โดยต้องการเน้นให้คนรวยและบริษัทขนาดใหญ่จ่ายภาษีเพิ่มขึ้น และคอยช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอันทะเยอทะยานของ ไบเดน
จากข้อเสนอที่วางไว้ได้เรียกร้องให้ให้มีการเพิ่มเพดานของภาษีเงินได้จาก 37% ไปเป็น 39.6% และยังจะมีการเก็บภาษีผลได้จากทุน (CGT) เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวสำหรับผู้ที่มีรายได้เกิน $1 ล้าน จนขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 39.6% เช่นกัน
การเปลี่ยนแปลงในข้อหลังจะกลายเป็นสถิติสูงสุดในการเก็บภาษีจากส่วนต่างกำไรของสินทรัพย์ ซึ่งส่วนใหญ่จะได้มาจากบรรดาเศรษฐีชาวอเมริกันนับตั้งแต่ช่วงยุคปี 1920 โดยอัตราภาษีนี้ไม่เคยสูงเกินกว่าระดับ 33.8% นับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา
หลังการเผยแพร่รายงานดังกล่าวก็ทำให้ดัชนี S&P 500 ในตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงประมาณ 1% จนกลายเป็นสถิติสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือน และยังมีการวิเคราะห์เพิ่มเติมกันอีกว่าหากแผนการนี้ผ่านการอนุมัติอาจทำให้ตลาดหุ้นร่วงลงกว่า 2,000 จุด
อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายยังคงเชื่อว่าข้อเสนอนี้จะพบเจอกับอุปสรรคมากมายในสภาคองเกรส ทั้งจากการต่อสู้กับเสียงคัดค้านจากพรรครีพับลิกัน หรือแม้แต่การได้รับเสียงสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์จากภายในพรรคเดโมแครตเองก็ตาม
จากรายงานของ Reuters ระบุว่า รายละเอียดของแผนการนี้น่าจะถูกเผยแพร่ภายในสัปดาห์หน้าก่อนการนำเสนอต่อรัฐสภาโดย ไบเดน ในวันพุธ ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ อาจยังมีการเปลี่ยนแปลงได้ในระหว่างนี้
ในขณะที่ เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวก็ได้เปิดเผยว่า ไบเดน จะทำการหารือเกี่ยวกับแผนการ American Families Plan ระหว่างการร่วมประชุมในสภาคองเกรส โดยทางทีมที่ปรึกษาของปธน.เชื่อว่ามาตรการที่เตรียมนำเสนอจะไม่ส่งผลเสียต่อการลงทุนในประเทศ
เป็นที่คาดกันว่าแผนการใหม่ของ ไบเดน จะทำให้มีรายได้เข้ามาอีก $1 ล้านล้าน เพิ่มเติมจากแผนงบประมาณ $2.3 ล้านล้านในการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและอาชีพ ซึ่งยังคงได้รับเสียงคัดค้านจากฝ่ายตรงข้ามในบางประเด็น
แม้พรรครีพับลิกันจะสนับสนุนการลงทุนในโครงการที่เกี่ยวกับระบบโครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังคงไม่เห็นด้วยในส่วนขยายอื่น ๆ ทั้งการดูแลผู้สูงวัยและการเก็บภาษีกับภาคธุรกิจเพิ่มเติม ซึ่งน่าจะสร้างปัญหาต่อเนื่องมาถึงแผนการล่าสุดของ ไบเดน เช่นกัน
นอกจากนี้ชาวอเมริกันที่มีรายได้สูงอาจเผชิญหน้ากับอัตราภาษีผลได้จากทุนในระดับที่สูงถึง 43.2% เมื่อรวมเข้ากับ 3.8% ของอัตราภาษีที่เก็บเพิ่มจากรายได้ที่เกิดจากการลงทุน (NIIT) สำหรับบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ไม่ต่ำกว่า $200,000
นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน Tax Foundation ได้กล่าวไว้ว่า ข้อเสนอนี้จะทำให้อัตราภาษีผลได้จากทุนของสหรัฐฯขยับขึ้นไปอยู่ในอันดับท็อปของโลก โดยเดนมาร์กที่มีเรตสูงสุดของยุโรปยังอยู่ที่ 42% ในขณะที่ฝรั่งเศสและฟินแลนด์จะเก็บภาษีนี้ในอัตรา 32%
References :