ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯในเดือนต.ค.ก้าวกระโดดขึ้นไปสร้างสถิติสูงสุดในรอบ 30 ปี โดยมีสาเหตุจากปัญหาการติดขัดของระบบซัพพลายเชนและความต้องการที่สูงขึ้นของการจับจ่ายในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปี
แต่ท่ามกลางรายงานอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นทั่วทุกพื้นที่ นักเศรษฐศาสตร์บางส่วนกลับแสดงความเห็นว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนพ.ย.และธ.ค.อาจจะมีแนวโน้มลดลง และการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อในเดือนที่แล้วก็น่าจะมาจนถึงจุดพีคแล้ว
ความคาดหมายดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นฐานของการขยับตัวลดลงล่าสุดของ Baltic Dry Index หรือ BDI ซึ่งเป็นตัวมาตรวัดยอดนิยมสำหรับอัตราค่าขนส่งทั่วโลกที่ถูกใช้งานโดยนักเศรษฐศาสตร์ในฐานะหนึ่งในดัชนีชี้นำสำหรับอัตราเงินเฟ้อ
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก PNC Financial Services กล่าวว่า การปรับตัวลดลงของ BDI อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการกลับทิศของภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตร้อนแรงเกินไป โดยช่วงเวลาที่เลวร้ายสุดอาจผ่านพ้นไปแล้วหรืออย่างน้อย ๆ ก็สำหรับการค้าขายระหว่างประเทศ
จากเมื่อวานนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯรายงานผลค่าดัชนี CPI ที่ทะยานขึ้น 6.2% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบกับ 1 ปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 1990 และยังเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันที่มีผลลัพธ์เกินกว่า 5%
ความร้อนแรงของรายงานภาวะเงินเฟ้อล่าสุดได้ส่งผลให้นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำบางส่วน ซึ่งรวมถึง เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เชื่อว่า อัตราเงินเฟ้ออาจยังลอยตัวอยู่อีกชั่วระยะเวลาหนึ่งก่อนจะเริ่มลดระดับลง
ทองคำ ตัวลดความเสี่ยงของอัตราเงินเฟ้อยอดนิยมพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนที่บริเวณ $1,860 หลังการรายงานผลดังกล่าว ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 2 ปีที่นักลงทุนใช้ทำนายการปรับอัตราดอกเบี้ยแบบหยาบ ๆ ก็ขยับขึ้น 6 bps มาอยู่ที่ 0.5%
ส่วนตลาดหุ้นที่เริ่มกังวลเกี่ยวกับการปรัลอัตราดอกเบี้ยก็มีความเคลื่อนไหวที่สวนทางกัน โดยดัชนี S&P 500 ขยับลง 0.25% ในขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลง 0.6% แต่ปฏิกิริยาเหล่านี้อาจจะดูแตกตื่นเกินไปหากดัชนีชี้วัดอัตราค่าขนส่งสามารถทำนายแนวโน้มได้อย่างถูกต้อง
ดัชนี BDI ที่ใช้ตรวจวัดค่าระวางเรือเพื่อการขนส่งวัตถุดิบรายวันเริ่มทะยานขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2,000 ตั้งแต่เดือนม.ค.จากตัวเลข 1,350 ในเดือนธ.ค. ไม่ถึง 2 เดือนหลังจากนั้นค่า CPI ก็เริ่มไต่ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2.6% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของ Fed ที่ 2%
หลังจากนั้นดัชนี BDI ยังคงขยับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องและกลายเป็นเหมือนลางบอกเหตุสำหรับการพุ่งขึ้นของค่า CPI จนกระทั่งวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา มันทะยานขึ้นไปแตะระดับ 5,650 และกลายเป็นสถิติสูงสุดในรอบกว่า 1 ทศวรรษ
นับแต่นั้นมาดัชนี BDI ก็ลดลงกว่า 50% และกลับไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งจากแนวโน้มของอัตราค่าขนส่งที่ลดลงล่าสุดก็ทำให้นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเชื่อว่า ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้จะได้เห็นการอ่อนตัวลงของอัตราเงินเฟ้อ
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก PNC ได้ให้ความเห็นทิ้งท้ายว่า แม้อัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงและยังคงขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างอุปทานและอุปสงค์ในแต่ละพื้นที่ แต่ช่วงเวลาเลวร้ายสุดของอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นจากการเสื่อมค่าของสกุลเงินน่าจะผ่านพ้นไปแล้ว
References :