สรุป การลงทุนในตลาดหุ้นสำหรับมือใหม่ ครบจบในบทความเดียว

การลงทุนในตลาดหุ้นสำหรับมือใหม่ ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางการลงทุนที่ดีสำหรับการลงทุนในระยะยาว แม้ในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนก็ตาม ซึ่งเริ่มง่าย ๆ เพียงแค่เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และเลือกการซื้อหุ้นแบบเดี่ยวหรือแบบกองทุนรวม โดยสามารถทำได้ผ่านช่องทางออนไลน์และช่องทางบริการอื่น ๆ ที่อาจมีค่าธรรมเนียมเล็กน้อย แต่สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มการลงทุนในด้านนี้อาจจะมีข้อสงสัยว่าจะเริ่มลงทุนได้อย่างไรกันบ้าง ในบทความนี้เราจึงได้รวบรวมวิธีการลงทุนในตลาดหุ้นสำหรับมือใหม่มาให้ได้อ่าน เรียกได้ว่าจบครบในบทความเดียวอย่างแน่นอน

     เลือกวิธีการลงทุนในตลาดหุ้น     

การลงทุนในตลาดหุ้นมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน ซึ่งในการเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นนั้น เราควรเริ่มจากการเลือกวิธีการลงทุนที่ดีและเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด ซึ่งวิธีการลงทุนที่เหมาะกับมือใหม่นั้นจะมีอยู่ 2 วิธีคือ Online Broker หรือการลงทุนผ่านนายหน้าออนไลน์ ที่ให้บริการด้านการลงทุนอย่างเต็มรูปแบบพร้อมทั้งส่วนลดต่าง ๆ อีกมากมาย ด้วยจุดเด่นของการลงทุนประเภทนี้คือ เราสามารถเลือกประเภทของการลงทุนได้ตามที่ใจต้องการ แถมยังมีค่าคอมมิชชั่นในการซื้อขายหุ้นที่ต่ำอีกด้วย เหมาะอย่างยิ่งกับคนที่ชอบซื้อขายหุ้นอยู่บ่อย ๆ และ Robo Advisor หรือที่ปรึกษาด้านการลงทุนอีกหนึ่งรูปแบบทางออนไลน์ ที่ช่วยสร้างพอร์ตการลงทุนได้อัตโนมัติ ด้วยการคิดค่าธรรมเนียมที่น้อยกว่า มีคุณสมบัติการใช้งานที่ครบถ้วนไม่แพ้กับการลงทุนแบบดั้งเดิมเลยทีเดียวแต่ใช้งานง่ายและเหมาะกับนักลงทุนทุกระดับโดยเฉพาะกับมือใหม่

     เปิดบัญชีการลงทุน     

โดยทั่วไปการลงทุนในหุ้นคุณต้องมีบัญชีการลงทุน ซึ่งสำหรับมือใหม่เราขอแนะนำผู้ช่วยที่สามารถทำให้เราเปิดบัญชีได้ง่ายขึ้นด้วยจำนวนเงินเพียงน้อยนิดนั่นก็คือ การเปิดบัญชีผ่าน Online Broker และ Robo Advisor ที่สามารถทำให้เราเข้าซื้อหุ้นกองทุนและการลงทุนอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็วและราคาถูก อีกทั้งยังสามารถเปิดบัญชีสะสมทรัพย์เพื่อการเกษียณหรือที่เรียกว่า IRA ได้อีกด้วย ซึ่งสำหรับการเปิดบัญชีผ่าน Online Broker นั้นสามารถเราจำเป็นต้องประเมินบัญชีตามปัจจัยต่าง ๆ เช่นค่าใช้จ่าย (ค่าคอมมิชชั่นการค้า ค่าธรรมเนียมบัญชี) และการเลือกการลงทุน (สำหรับใครที่ชอบการลงทุนแบบกองทุน ก็ขอแนะนำให้มองหากองทุน ETFs ที่ไม่มีค่าคอมมิชชั่น) รวมไปถึงการวิจัยและเครื่องมือของนักลงทุนต่าง ๆ

สำหรับการเปิดบัญชีผ่าน Robo Advisor นั้นก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะช่วยให้การจัดการการลงทุนของเรานั้นง่ายและสมบูรณ์มากขึ้นด้วยการถามข้อมูลเกี่ยวกับเป้าหมายการลงทุนของเราและทำการสร้างพอร์ตโฟลิโอที่ออกแบบมาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านั้น

     ทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างหุ้นเดี่ยวและกองทุนรวม     

สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจในการลงทุนคือความแตกต่างระหว่างหุ้นเดี่ยวและกองทุนรวมที่เป็นการลงทุนยอดนิยมของเหล่านักลงทุน เริ่มต้นด้วยกองทุนรวม เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการลงทุนในตลาดหุ้นที่ช่วยให้เราสามารถซื้อหุ้นหลาย ๆ ตัวได้ในการทำธุรกรรมเพียงแค่ครั้งเดียว โดยกองทุนดัชนีและอีทีเอฟเป็นกองทุนที่สามารถติดตามดัชนีตลาดหุ้นได้ ตัวอย่างเช่นกองทุน 500 ของ Standard & Poor ที่สามารถทำได้ด้วยการซื้อหุ้นของบริษัทนั้น ๆ และเมื่อเราลงทุนในกองทุนเหล่านั้นเราก็จะได้เป็นเจ้าชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของแต่ละบริษัท ซึ่งเราสามารถรวมหลายกองทุนเข้าด้วยกันเพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายได้อีกด้วย

ในขณะเดียวกันหากเราต้องการลงทุนกับบริษัทที่เฉพาะเจาะจงก็สามารถเลือกการลงทุนแบบเดี่ยว หรือ Individual stocks ซึ่งการลงทุนวิธีนี้ก็สามารถสร้างพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายได้เช่นกันเพียงแต่ต้องใช้เงินจำนวนมากกว่าแบบกองทุนรวมนั่นเอง

     กำหนดงบประมาณสำหรับการลงทุนในหุ้น     

สำหรับนักลงทุนมือใหม่มักจะมีสองคำถามที่ต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนจะเริ่มลงทุนว่า จะเริ่มลงทุนได้ต้องมีจำนวนเงินเท่าไหร่ ซึ่งในข้อนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าราคาหุ้นนั้นแพงแค่ไหน โดยปกติแล้วราคาหุ้นจะเริ่มต้นอยู่ที่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น หรือหากต้องการลงทุนแบบกองทุนรวม ด้วยงบประมาณที่ไม่มากนัก กองทุนแลกเปลี่ยนซื้อขาย (ETF) ก็ถือเป็นอีกตัวเลือกที่ตอบโจทย์เช่นกัน โดยปกติแล้วกองทุนรวมมักจะมีขั้นต่ำอยู่ที่ 1,000 ดอลราห์หรือ  3 หมื่นบาทขึ้นไป แต่การซื้อขาย ETF นั้นในบางครั้งก็อาจจะเริ่มต้นได้ด้วยจำนวนเงินที่น้อยกว่า 100 ดอลลาร์หรือจำนวนเงินแค่หลักพันเท่านั้น แต่สำหรับมือใหม่ก็มีอีกหนึ่งคำถามที่คาใจอีกว่าแล้วควรเริ่มลงทุนในหุ้นเป็นจำนวนเท่าไหร่ดี ในการลงทุนแต่ละครั้งเราสามารถจัดสรรพอร์ตโฟลิโอส่วนใหญ่ของเราไปยังกองทุนหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีระยะเวลานาน ตัวอย่างเช่นการลงทุนในวัยเกษียณ 30 ปี อาจมีพอร์ตลงทุน 80% ในกองทุนหุ้น ส่วนที่เหลือจะเป็นกองทุนพันธบัตร หุ้นแต่ละตัวเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เราขอแนะนำให้รักษาพอร์ตการลงทุนไว้ที่ 10% หรือน้อยกว่านั้น

สำหรับการลงทุนในช่วงแรกนั้นก็อาจจะดูยุ่งยากและซับซ้อนไปสักหน่อยแต่หากอ่านรายละเอียดและศึกษาขึ้นตอนการลงทุนอย่างดีแล้วก็จะสามารถลงทุนได้อย่างง่ายดายกว่าที่คิด โดยในช่วงแรกเราขอแนะนำให้ลงทุนด้วยการลงทุนแบบ กองทุนรวมที่มีต้นทุนต่ำเช่น กองทุนดัชนีและอีทีเอฟ ที่สามารถลงทุนได้ในจำนวนที่น้อยกว่าและซื้อหุ้นได้เยอะกว่าในครั้งเดียว และสำหรับการเลือกที่ปรึกษาทางด้านการลงทุนสำหรับมือใหม่นั้น Robo Advisor ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในการสร้างพอร์ตการลงทุนอย่างสมบูรณ์แบบได้ด้วยค่าธรรมเนียมที่ราคาถูกกว่าอีกด้วย

https://www.moneyunder30.com/how-to-invest-in-the-stock-market

https://www.nerdwallet.com/article/investing/how-to-invest-in-stocks