ความคาดหมายถึงการลงมติของคณะกรรมการบริหารธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ภายในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับการยุตินโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากปัญหา COVID-19 เร็วขึ้น ส่อแววจะหยุดชะงักลงจากปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้าเข้ามาในเวลานี้
จากเมื่อเดือนก่อนมีเพียง ไมเคิล ซอนเดอร์ส ที่เป็นคณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) เพียงคนเดียวที่โหวตให้ยุติการซื้อพันธบัตร โดยให้เหตุผลเรื่องความเสี่ยงจากการซื้อที่ต่อเนื่องว่าจะส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินอย่างรุนแรงในอนาคต
จนในเวลาต่อมา แอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE ก็เปิดเผยว่า MPC ทั้งหมด 4 คนรวมถึงตัวเขาที่ร่วมลงมติในเดือนก่อนกำลังรู้สึกได้ว่า เริ่มเกิดเงื่อนไขเบื้องต้นบางอย่างเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการขยับอัตราดอกเบี้ยขึ้น
โดยพวกเขาจะต้องชั่งน้ำหนักตัวเลขที่แสดงถึงการฟื้นตัวที่เชื่องช้าในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับการก้าวกระโดดของอัตราเงินเฟ้อในเดือนส.ค. หลังสร้างสถิติสูงสุดในรอบ 9 ปีด้วยตัวเลข 3.2% ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่ BoE วางเอาไว้ 2% ไปไกลลิบ
จากข้อมูลเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนแสดงถึงสัญญาณที่ผสมปนเปกัน โดยยอดค้าปลีกของเดือนส.ค.ลดลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือน แต่ในผลสำรวจจาก BoE กลับเปิดเผยความคาดหมายที่เพิ่มขึ้นของประชาชนเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อในปีถัดไป
ในขณะที่ BoE เคยกล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อน่าจะไต่ขึ้นไปถึงประมาณ 4% ณ ตอนช่วงสิ้นปีก่อนจะค่อย ๆ ลดระดับลง แต่จากการพุ่งขึ้นของราคาในปัจจุบันก็กลายเป็นแรงกดดันของสถาบันในการอธิบายถึงแผนการถอนคันเร่งจากนบายสนับสนุนที่มีมาตั้งแต่ปีก่อน
นักเศรษฐศาสตร์และนักการตลาดหลายคนเชื่อว่า BoE จะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในปีหน้าก่อนหน้าธนาคารกลางชั้นนำอื่น ๆ และยังคอยเฝ้าติดตามว่าจะมีผู้ใดเข้ามาเป็นแนวร่วมกับ ซอนเดอร์ส ในการประชุมของกลุ่ม MPC ในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้นักลงทุนส่วนใหญ่จะยังคอยเฝ้าติตตามข้อมูลเกี่ยวกับแนวคิดของ BoE ถึงช่วงเวลาในการขยับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเป็นครั้งแรก เนื่องจากเงื่อนงำที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยจนถึงขณะนี้
ผลสำรวจจาก Reuters เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาระบุว่า BoE น่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในช่วงปลายปี 2022 หรือเร็วกว่านั้น ในขณะที่ตลาดการเงินหลายแห่งมองเห็นความเป็นไปได้เกือบ 60% ที่จะมีการขยับอัตราขึ้น 15 bps ภายในเดือนก.พ.ปีหน้า
แต่สมาชิก MPC อาจจะยังรำลึกถึงนโยบายที่ผิดพลาดในสถานการณ์เดียวกันเมื่อครั้งในอดีต เช่น การปรับอัตราดอกเบี้ยที่ผิดพลาดของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในปี 2011 เพื่อตอบสนองต่ออัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจากปัญหาราคาพลังงานทั่วโลก
ยังมีประเด็นที่น่ากังวลเกี่ยวกับผู้คนเป็นจำนวนมากถึง 1 ล้านคนอาจตกอยู่ในสถานการณ์เคว้งคว้างจากการสนับสนุนทางการเงินอันน้อยนิด เมื่อโครงการช่วยเหลือผู้ที่ถูกพักงานของรัฐบาล UK ยุติลงในเดือนนี้
ในขณะเดียวกันปัญหาจากเงินเฟ้อก็อาจยืดเยื้อต่อไปหากการติดขัดของระบบซัพพลายเชนจากปัญหาการขาดแคลนทั่วโลกและการ Brexit ไม่ทุเลาลง และนายจ้างยังคงลำบากในการหาคนทำงานที่เหมาะสมกับตำแหน่ง ซึ่งก็จะกลายเป็นแรงกดดันให้กับ BoE ในทุก ๆ การตัดสินใจ
References :