ราคาในการเข้าสู่ตลาดคาร์บอนของยุโรปปิดตัวด้วยระดับสูงสุดจนกลายเป็นสถิติด้วยตัวเลขเกินกว่า €96 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งนักวิเคราะห์ต่างก็คาดหมายว่าการทะยานขึ้นไปแตะระดับ €100 คงจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้
จากเป็นที่รู้จักกันในนามระบบการค้าขายแลกเปลี่ยนก๊าซเรือนกระจก (ETS) ตลาดคาร์บอนของ EU เป็นผู้ตั้งกฎเกณฑ์ให้กับโรงงาน, โรงไฟฟ้า และสายการบินในการจ่ายเงินค่าธรรมเนียมให้กับทุก ๆ ตันของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่ถูกปล่อยออกมา
ยิ่งราคาการขอรับอนุญาตสูงขึ้นเพียงใดต้นทุนของการปล่อยสิ่งที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนร้อนก็สูงขึ้นเท่านั้น แม้จะมีบางองค์กรที่ได้รับใบอนุญาตฟรีเพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถแข่งขันกับราคาในตลาดโลกได้ก็ตาม
กลไกราคาคาร์บอนขยับตัวขึ้นสูงกว่า 200% นับตั้งแต่ต้นปี 2021 เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ราคาแก๊สที่สูงขึ้นซึ่งก็ส่งผลให้โรงไฟฟ้าบางแห่งต้องหันมาใช้ถ่านหินกันเพิ่มขึ้น จนทำให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากขึ้นและความต้องการขอรับอนุญาตก็สูงขึ้นตามไปด้วย
สัญญาอ้างอิงเพื่อขอรับอนุญาตการปล่อยก๊าซคาร์บอนใน EU ณ วันศุกร์ที่ผ่านมาทะยานขึ้นไปถึง €97.50 ต่อตัน ก่อนที่จะปิดจบวันด้วยระดับ €96.43 และยังถือเป็นราคาปิดที่สูงที่สุดของตลาดคาร์บอนของยุโรปนับตั้งแต่เปิดตัวมาในปี 2005
เหล่านักวิเคราะห์พากันให้ความเห็นว่า ราคาที่ก้าวกระโดดขึ้นล่าสุดได้รับแนวโน้มมาจากแรงผลักดันของการซื้อในเชิงเทคนิคและระดับราคา €100 ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม ซึ่งเป็นระดับที่ถูกชี้นำถึงความสนใจที่หลั่งไหลเข้ามาของสัญญาตัวเลือก CO2 ในราคานั้น
การไต่ระดับขึ้นของกลไกราคาคาร์บอนในยุโรปปรากฏออกมาให้เห็นชัดในปีก่อน จากที่ผู้กำหนดนโยบายของ EU ได้เปิดเผยร่างกฎหมายใหม่เพื่อลดการปล่อยมลพิษให้เร็วขึ้นภายในปี 2030 ซึ่งรวมถึงการปฏิรูปตลาดจนทำให้มีการคาดหมายถึงราคาที่จะสูงขึ้นไปอีก
Refinitiv บริษัทจัดการความเสี่ยงระดับโลกกล่าวว่า ต้นทุนคาร์บอนที่ระดับ €100 อาจทำให้เกิดประเด็นถกเถียงทางการเมืองเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าว ท่ามกลางเป้าหมายของ EU ที่จะควบคุมการปล่อยมลพิษให้ลดลง 55% จากระดับของปี 1990 ภายในปี 2030
แต่ก็มีหลายประเทศที่รวมถึงโปแลนด์กล่าวว่าราคาคาร์บอนที่สูงขึ้นมีผลมาจากการเก็งกำไรและเรียกร้องให้ EU เข้าแทรกแซงตลาด ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ ก็มองว่ายังไม่มีมาตรการควบคุมการล่วงละเมิดเกี่ยวกับราคาในระบบ ETS
การกำหนดราคาของมลพิษ ทาง ETS จะจัดเตรียมสิ่งจูงใจด้านการเงินให้กับบริษัทที่ลดการปล่อยมลพิษและลงทุนไปกับเทคโนโลยีสีเขียว แต่หลายปีที่ผ่านมากำลังที่จะสนับสนุนตรงส่วนนี้ยังคงอยู่ในระดับต่ำ
เนื่องจากต้องมีการลงทุนล่วงหน้าเป็นจำนวนมากเพื่อขยายเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในภาคส่วนต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมซีเมนต์และการผลิตเหล็ก
ด้วยราคาคาร์บอนที่ €100 ทางภาคอุตสาหกรรมก็แนะนำว่าเทคโนโลยีการดักจับและการจัดเก็บคาร์บอนอาจคุ้มค่าในการใช้งานซึ่งรวมถึงในโรงกลั่น แม้ว่าเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น การผลิตไฮโดรเจนจากพลังงานหมุนเวียนจะยังคงต้องใช้ต้นทุน ของคาร์บอนที่สูงขึ้น
References :
https://www.reuters.com/business/energy/europes-carbon-price-nears-100-euro-milestone-2022-02-04/
